การจัดฟันในผู้สูงอายุ สามารถทำได้หรือไม่ ?อย่างที่หลายๆท่านอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีแล้วว่า การจัดฟันมักเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น เนื่องจากว่าคนส่วนใหญ่ยังมีทัศนคติเกี่ยวกับการจัดฟันว่า นอกจากจะเป็นกระบวนการทางทันตกรรมที่ช่วยให้ฟันที่ผิดปกติกลับมาเรียงตัวสวยงาม ยังถือได้ว่าเป็นแฟชั่นยอดนิยมในหมู่วัยรุ่นเป็นอย่างมากอีกด้วย และที่สำคัญการจัดฟันมักเป็นที่นิยมในช่วงอายุ 12 – 15 ปี เนื่องจากว่าเป็นช่วงที่เหมาะสม ในเรื่องของการรักษาที่ง่าย และได้ประสิทธิภาพสูง ต่างจากช่วงวัย 30 ขึ้นไป ที่การรักษาด้วยการจัดฟันนั้นจะยากขึ้นไปอีก แถมบางท่านยังอาจจะเขินอายที่จะต้องใส่อุปกรณ์ดัดฟัน แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น การจัดฟันสามารถทำได้ทุกช่วงอายุนั่นเอง
ในวันนี้ทางด้านของ Clinic จะขอมาแนะนำการจัดฟันในผู้สูงอายุให้ได้ทำความเข้าใจเพิ่มมากขึ้นถึงข้อจำกัดทางอายุในการจัดฟัน โดยมีรายละเอียดดังต่อไป
ข้อจำกัดในการจัดฟันของผู้สูงอายุ
ต้องขอบอกว่าการจัดฟันในช่วงที่มีอายุมาก อาจจะเกิดปัญหาเรื่องสุขภาพต่างๆที่ไม่แข็งแรงเหมือนในวัยเด็ก ซึ่งอาจจะมีข้อจำกัดในการจัดฟันหลายๆอย่างดังต่อไปนี้
– ไม่สามารถช่วยปรับเปลี่ยนโครงสร้างของใบหน้าได้
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันได้มีความเข้าใจหนึ่งว่า การจัดฟันนั้นจะช่วยเปลี่ยนโครงสร้างใบหน้าได้ จึงทำให้มีผู้สูงวัยจำนวนมาก ที่รักความสวยความงามมาทำการจัดฟันเพราะเหตุนี้ แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นผู้สูงวัยเมื่อทำการจัดฟัน จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงของโครงหน้า แต่ก็ไม่ใช่ว่าความเข้าใจแบบนี้จะผิด เพราะ หากว่ามาทำการจัดฟันตั้งแต่ในวัยเด็กเล็กๆในช่วงวัยกำลังเจริญเติบโต ก็จะสามารถทำให้โครงสร้างใบหน้าเปลี่ยนไปได้
แต่ถ้าหากว่าในวัยผู้สูงอายุมุ่งหวังที่จะจัดฟันเพื่อนเปลี่ยนโครงสร้างของใบหน้าจริงๆ แนะนำว่าควรจัดฟันคู่กับการทำศัลยกรรมผ่าตัดกระดูกขากรรไกร
– การเคลื่อนตัวเข้าที่ของฟันช้า
หากจะพูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ ผู้ที่มีอายุมากจะใช้เวลาในการจัดฟันที่นานมาก เนื่องจากว่าในวัย 30 ปีขึ้นไป โครงสร้างของกระดูกในส่วนต่างๆนั้นเจริญเติบโตเต็มที่มาเป็นระยะเวลานานแล้ว การเคลื่อนที่ต่างๆจึงเป็นไปได้อย่างยากและช้า เมื่อเทียบกับในวัยเด็กที่มาทำการจัดฟันที่กำลังอยู่ในช่วงวัยเจริญเติบโต กระดูกส่วนต่างๆจึงทำการเคลื่อนที่เคลื่อนย้ายไปยังตำแหน่งที่ต้องการได้ง่ายและรวดเร็วกว่ามาก
แต่ถ้าหากว่าผู้สูงอายุต้องการรักษาสุขภาพช่องปากและฟันด้วยกระบวนการจัดฟันจริงๆแล้วล่ะก็ ควรต้องใจเย็นๆเพราะกว่าจะเห็นผลคงต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควรเลย
– สุขภาพช่องปากเสื่อมโทรมมากกว่า
ในวัยผู้สูงอายุที่ช่องปากผ่านการใช้งานมาเป็นระยะเวลาที่นาน ทำให้ฟันอาจจะไม่มีความแข็งแรงเท่ากับในวัยเด็ก หรือวัยหนุ่มสาว เมื่อทำการจัดฟันไปแล้วจำเป็นที่จะต้องดูแลช่องปากอย่างจริงจังกว่าปกติมาก เพราะมีโอกาสที่สุขภาพฟันจะเสื่อมโทรมนั้นมีมากกว่าในวัยเด็กอย่างแน่นอน และหากว่าฟันมีปัญหาในขณะจัดฟัน จะยิ่งทำให้เสียเวลามากขึ้นกว่าเดิมในการแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นอีกด้วย
– ผู้สูงอายุมีข้อจำกัดของร่างกายมากกว่าวัยเด็ก
ต้องเข้าใจตามหลักการธรรมชาติว่าร่างกายเมื่อใช้ไปนานๆก็อาจจะทำให้มีโรคต่างๆเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งหากว่าผู้สูงวัยที่ต้องการเข้ารับการจัดฟันแต่เป็นโรคเกี่ยวกับฟันหรือเหงือกอยู่ในขณะนั้น ก็ต้องทำการรักษาโรคในช่องปากต่างๆให้หายหมดเสียก่อนถึงจะสามารถทำการจัดฟันได้
แต่ถ้าหากว่าผู้สูงวัยที่จะทำการจัดฟันดูแลสุขภาพกายและช่องปากเป็นอย่างดี ก็ไม่มีปัญหาอะไรในการเข้ารับการรักษาในระยะเวลาที่กำหนด แต่ในผู้สูงวัยจะไม่สามารถกระตุ้นกระดูกขากรรไกรแบบการจัดฟันในวัยเด็กได้
– การปรับตัวระหว่างการจัดฟันยาก
อย่างที่ทราบกันเป็นอย่างดีว่าการจัดฟันนั้นส่งผลกระทบโดยตรงต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การเคี้ยวอาหารที่ยากขึ้น การพูดคุยที่อาจจะไม่ชัด ความรู้สึกตึง และปวดฟัน ซึ่งอาการต่างๆที่กล่าวมาข้างต้นนี้ หากเป็นในวัยเด็กจะสามารถปรับตัวได้รวดเร็วกว่าในวัยผู้สูงอายุ
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็คือข้อจำกัดเบื้องต้นของผู้สูงวัยที่ต้องการจัดฟัน แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หากว่าดูแลสุขภาพช่องปากเป็นอย่างดี พบทันตแพทย์เป็นประจำ ไม่ว่าอายุเท่าไหร่ก็ไม่มีปัญหาในการจัดฟันนั่นเอง