โรคเบาหวาน ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นสูงกว่าปกติ ทำไมต้องรักษาโรคเบาหวาน ทำไมต้องรักษา ?
โรคเบาหวาน เป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ อันเป็นผลมาจากความบกพร่องของการหลั่งอินซูลินจากตับอ่อน หรือประสิทธิภาพลดลงจากภาวะดื้ออินซูลินหรือทั้งสองอย่างร่วมกัน
ทำไมต้องตรวจหาเบาหวาน
ผู้ป่วยเบาหวานควรพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจระดับน้ำตาลและปรับขนาดของยา การที่ผู้ป่วยเบาหวานรับประทานยาขนาดเดียวกันอยู่ตลอดเวลาอาจจะไม่สามารถควบคุมน้ำตาลให้สม่ำเสมอได้ (ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับปริมาณของอาหารและความก้าวหน้าของโรค) ตรวจหาภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น เส้นประสาทเสื่อมจากเบาหวาน (Diabetic Neuropathy) จอประสาทตาเสื่อม (Retinopathy) หากเมื่อพบภาวะแทรกซ้อนต่างๆ โดยเร็ว แพทย์จะได้ทำการรักษาได้อย่างทันท่วงที
เป้าหมายและการประเมินผลการรักษาเบาหวาน
ในการรักษาเบาหวาน เป้าหมายเพื่อให้ผู้ป่วยเบาหวานดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข การควบคุม ระดับน้ำตาลในเลือดให้ใกล้เคียงคนปกติมากที่สุด สามารถช่วยลดอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังทางตา ไต ระบบประสาทส่วนปลาย ภาวะแทรกซ้อนของหัวใจและหลอดเลือดทั้งยังช่วยป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดสูงและภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลันได้อีกด้วย นอกจากการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดแล้ว ควรควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ต่อภาวะแทรกซ้อนทางหลอดเลือดด้วย เช่น ความดันโลหิต, ระดับไขมันในเลือด, ลดน้ำหนักและงดสูบบุหรี่
การประเมินผลการรักษาเบาหวานมีความสำคัญมากเพราะจะช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานทราบสถานะการควบคุม เบาหวานของตนเอง ทำให้มีการปรับปรุงแก้ไขพฤติกรรมเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ หรือใกล้เคียงปกติ
อาการของเบาหวาน
อาการที่เกิดขึ้นจากระดับน้ำตาลในเลือดสูงคือ ปัสสาวะบ่อย, อ่อนเพลีย, ดื่มน้ำมาก, กล้ามเนื้ออ่อนแรง, น้ำหนักตัวลดลง
โรคแทรกซ้อนที่เกิดจากเบาหวาน
ถ้าระดับน้ำตาลในเลือดสูง อยู่นานๆ แล้วไม่ได้รับการรักษา จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเส้นเลือดนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังทางตา, ไต, ปลายประสาท ซึ่งเป็นความเจ็บป่วยที่อาจตามมาได้ ดังนั้น เบาหวานจึงเป็นโรคที่ต้องการการรักษาที่สม่ำเสมอและต่อเนื่อง (ประกอบด้วย การควบคุมอาหาร, การออกกำลังกาย, ยา) และพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
เบาหวาน ทำไมต้องออกกำลังกาย ?
เพราะการออกกำลังกายที่เหมาะสมและสม่ำเสมอจะช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงได้ และสามารถป้องกันผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานไม่ให้เป็นโรคเบาหวาน ในขณะที่เราออกกำลังกายร่างกายต้องใช้พลังงานในการเคลื่อนไหวร่างกายมากกว่าปกติและแหล่งพลังงานที่สำคัญที่สุดในร่างกายคือ “น้ำตาล” ถ้าเราออกกำลังกายให้เพียงพอร่างกายจะใช้น้ำตาลในเลือดเพื่อเปลี่ยนไปเป็นพลังงานจึงส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีในระยะยาวและช่วยให้แพทย์พิจารณาปรับลดปริมาณของยาที่ต้องทานหรือลดปริมาณอินซูลินที่ต้องฉีดได้
ทำไมต้องควบคุมอาหารร่วมด้วย ทั้งๆ ที่รับประทานยาแล้ว ?
คนปกติจะมีการหลั่งอินซูลินจากตับอ่อนสัมพันธ์กับระดับน้ำตาลในเลือดที่เปลี่ยนแปลง แต่ในคนไข้เบาหวานกลไกนี้มีความบกพร่องหรือออกฤทธิ์ได้ไม่ดี จึงมีความจำเป็นที่จะต้องควบคุมอาหารร่วมกับการรับประทานยาและการออกกำลังกายอย่างเหมาะสมด้วย
เป็นเบาหวานทำไมต้องฉีดอินซูลิน ?
ในคนที่ได้ยารับประทานเต็มที่แล้วไม่ได้ผล เมื่อแพทย์พิจารณาแล้วว่าควรใช้อินซูลินไม่ได้หมายความว่าเป็นระยะสุดท้ายของโรค เพราะแพทย์ย่อมคำนึงถึงผลดีและผลเสียของการใช้อินซูลินชนิดฉีด ทำให้ปัญหายุ่งยากจากการฉีดอินซูลินลดลง
ระดับน้ำตาลในเลือดไม่สูง แสดงว่า การรักษาโรคเบาหวานดีแล้วจริงหรือ ?
จุดประสงค์หลักในการรักษาโรคเบาหวานคือการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ปกติเพื่อป้องกันการชลอการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ทราบถึงปัญหาที่อาจจะเกิด เช่น เวลาที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงหรือต่ำเกินไปเพื่อจะได้แก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที
ทำไมต้องตรวจ Hb A1C ?
ค่าของ Hb A1C จะช่วยบอกว่าระดับน้ำตาลในเลือดโดยเฉลี่ยถูกควบคุมได้ดีหรือไม่
ทำไมต้องตรวจตาทุกปี ?
ผู้ป่วยเบาหวานที่ไม่ได้รับการควบคุมรักษาอย่างถูกต้องพบว่ามีอาการผิดปกติทางตาได้บ่อย เช่น ตามัว จอประสาทตาเสื่อมหรือเบาหวานขึ้นตา ดังนั้น ผู้ป่วยเบาหวานควรได้รับการตรวจตาอย่างละเอียด โดยจักษุแพทย์ว่ามีความผิดปกติหรือไม่ อย่างน้อยปีละครั้ง ถ้าตรวจพบได้เร็วและได้รับการดูแลในระยะแรกของโรค ก็จะช่วยป้องกันสายตาของเราจากจอประสาทตาเสื่อม จากโรคเบาหวานได้
ทำไมต้องตรวจการทำงานของไตทุกปี ?
ภาวะไตเสื่อมจากเบาหวานในระยะแรกเริ่มจะไม่ปรากฏอาการ การวัดระดับสารพิษในเลือดจะยังไม่พบอะไรผิดปกติ หากรอให้ระดับสารพิษในเลือดสูง
ไตมักเสียหายไปกว่า 90% แล้ว แต่การตรวจปัสสาวะจะเริ่มพบอัลบูมินหรือไข่ขาวเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นการตรวจระดับไข่ขาวในปัสสาวะจึงมีความสำคัญมากในการคัดกรองความผิดปกติของไตในระยะแรกเริ่มและควรได้รับการตรวจอย่างสม่ำเสมอทุกปี