แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 61
1
Doctor At Home: ไขสันหลังได้รับบาดเจ็บ (Spinal cord injury)

การบาดเจ็บที่บริเวณคอหรือหลัง อาจทำให้ประสาทไขสันหลังได้รับบาดเจ็บ เป็นเหตุให้เกิดอาการอัมพาตของแขนขาทั้ง 4 ข้าง (quadriplegia) หรือขา 2 ข้าง (paraplegia) ส่วนใหญ่พบเป็นภาวะแทรกซ้อนของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจร และการตกจากที่สูง มักพบในผู้ชายอายุ 15-35 ปี


สาเหตุ

ส่วนใหญ่เกิดจากอุบัติเหตุร้ายแรง ได้แก่ รถชน รถคว่ำ ตกจากที่สูง ถูกของหนักหล่นทับ เป็นต้น นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากการถูกยิง ถูกแทงเข้าไขสันหลัง ทำให้ประสาทไขสันหลังได้รับการกระทบกระเทือน ฟกช้ำ เลือดออกหรือฉีกขาด ทำให้เกิดอาการอัมพาตของแขนขา 2 ข้างทันที


อาการ

ถ้าบาดเจ็บตรงระดับเอว ขาทั้ง 2 ข้างมักจะชา กระดุกกระดิกไม่ได้ ถ่ายปัสสาวะและอุจจาระเองไม่ได้ อวัยวะเพศทำงานไม่ได้ เช่น องคชาตไม่แข็งตัว

ถ้าบาดเจ็บตรงระดับคอ จะมีอาการอัมพาตของแขนทั้ง 2 ข้างร่วมกับขาทั้ง 2 ข้าง และถ้ากระทบกระเทือนถูกส่วนที่ควบคุมการหายใจ ผู้ป่วยจะหายใจไม่ได้ และถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลืออาจเสียชีวิตในเวลารวดเร็ว

โดยทั่วไปผู้ป่วยมักจะมีความรู้สึกตัวดีเหมือนคนปกติ


ภาวะแทรกซ้อน

ผู้ป่วยที่เป็นอัมพาตนาน ๆ อาจมีแผลกดทับ (bed sores) หรืออาจเป็นโรคติดเชื้อ (เช่น ปอดอักเสบ ทางเดินปัสสาวะอักเสบ) ได้ง่าย


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย ซึ่งจะตรวจพบขา 2 ข้าง หรือแขนขาทั้ง 4 ข้างเป็นอัมพาตและชา (ไม่รู้สึกเจ็บเวลาถูกเข็มจิ้ม)

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น เอกซเรย์กระดูกสันหลัง ถ่ายภาพไขสันหลังด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ถ่ายภาพรังสีไขสันหลังโดยการฉีดสารทึบรังสี (myelography) เป็นต้น


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล ให้การรักษาตามอาการและการรักษาแบบประคับประคอง เช่น ถ้ากินอาหารไม่ได้ ให้น้ำเกลือ หรือให้อาหารทางสายยางหรือทางหลอดเลือดดำ, ถ้าหายใจไม่ได้ ใช้เครื่องช่วยหายใจ, ถ้าปัสสาวะไม่ได้ ใส่สายสวนปัสสาวะ เป็นต้น

แพทย์จะให้สเตียรอยด์ฉีดเข้าหลอดเลือดดำเพื่อลดอาการบวม ช่วยให้ฟื้นตัวดีขึ้น ถ้าจะให้ได้ผลดีต้องให้ภายใน 8 ชั่วโมงหลังบาดเจ็บ และให้ติดต่อกันนาน 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ จะทำการรักษาโดยใช้น้ำหนักดึงถ่วง (traction) ให้ข้อกระดูกที่เคลื่อนเข้าที่ หรือป้องกันไม่ให้ข้อกระดูกสันหลังเคลื่อนหรือกดทับไขสันหลัง บางรายอาจต้องทำการผ่าตัดสันหลัง เพื่อแก้ไขความผิดปกติและทำการเชื่อมต่อข้อกระดูกสันหลัง

ผู้ป่วยจำเป็นต้องนอนพักรักษาอยู่ในโรงพยาบาลอยู่นาน หลังจากนั้นแพทย์จะทำการฟื้นฟูสภาพด้วยกายภาพบำบัด และใช้อุปกรณ์หรือรถเข็นช่วยในการเคลื่อนไหวของผู้ป่วย

ผลการรักษา ขึ้นกับความรุนแรงของโรค ถ้าไขสันหลังได้รับการกระทบกระเทือนหรือบาดเจ็บไม่มาก ก็มีโอกาสฟื้นคืนความแข็งแรงได้ โดยสังเกตว่า ถ้าผู้ป่วยสามารถขยับแขนขาและมีความรู้สึกเจ็บกลับคืนมาภายใน 1 สัปดาห์ก็อาจมีทางหายได้

แต่ถ้าประสาทไขสันหลังถูกทำลาย อาการอัมพาตก็มักจะเป็นอย่างถาวร โดยที่อาการจะไม่ดีขึ้นเลยภายหลังบาดเจ็บ 6 เดือนไปแล้ว

ในรายที่มีการบาดเจ็บตรงคอ ซึ่งมีอาการอัมพาตหมดทั้งแขนขา 4 ข้าง และไม่สามารถหายใจได้เอง หากเป็นอัมพาตอย่างถาวร ก็ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจประทังชีวิต ผู้ป่วยจะมีชีวิตอยู่ได้ระยะหนึ่ง และมักเสียชีวิตด้วยภาวะติดเชื้อ (เช่น ปอดอักเสบ) แทรกซ้อน


การดูแลตนเอง

หากได้รับบาดเจ็บรุนแรงตรงบริเวณคอหรือหลัง ควรทำการปฐมพยาบาลและรีบนำผู้ป่วยไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยเร็ว

เมื่อตรวจพบว่าเป็นไขสันหลังได้รับบาดเจ็บ ควรดูแลรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

เมื่อได้รับการรักษาจนสามารถกลับมาพักฟื้นที่บ้าน ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    กินยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    ฝึกทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์/นักกายภาพบำบัด
    ในกรณีที่นอนติดเตียง ควรใช้ที่นอนที่ลดแรงกดทับ (เช่น ที่นอนน้ำ ที่นอนลม) และผู้ดูแลควรทำการพลิกตัวผู้ป่วยทุก 2 ชั่วโมงเพื่อป้องกันแผลกดทับ
    ระมัดระวังในการป้อนอาหารแก่ผู้ป่วย อย่าให้สำลัก
    ถ้ามีสายสวนปัสสาวะ หรือสายป้อนอาหาร (ที่ใส่ผ่านจมูกเข้าไปที่กระเพาะอาหาร) ควรดูแลให้สะอาดปลอดภัยตามตามคำแนะนำของแพทย์/พยาบาล

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีไข้สูง หนาวสั่น ท้องเดิน หรืออาเจียน
    ปวดศีรษะรุนแรง สับสน ซึม ไม่ค่อยรู้สึกตัว หรือหายใจหอบหรือลำบาก
    กินอาหาร หรือดื่มน้ำได้น้อย
    มีแผลกดทับเกิดขึ้น
    ยาหายหรือขาดยา
    มีอาการสงสัยว่าเป็นผลข้างเคียงจากยาหรือแพ้ยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม เหนื่อยหอบ หรือหายใจมีเสียงดังวี้ด ๆ ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น
    มีความวิตกกังวล

การปฐมพยาบาลสำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่คอและหลัง

1. ถ้าผู้ป่วยหายใจไม่ได้เนื่องจากไขสันหลังส่วนคอได้รับบาดเจ็บ ให้ทำการผายปอดด้วยการเป่าปากจนกว่าจะถึงโรงพยาบาล

2. ในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ควรกระทำดังนี้

    ห้ามยก แบก หรือหามผู้ป่วยโดยตรง อาจทำให้ไขสันหลังได้รับอันตรายมากยิ่งขึ้น
    พยายามให้ผู้ป่วยนอนราบ ให้ศีรษะ คอ และลำตัว ตั้งอยู่ในแนวตรงกันเสมอ ถ้าจำเป็นต้องขยับตัวผู้ป่วยให้ใช้ผู้ช่วยอย่างน้อย 3 คน ขยับศีรษะ คอ ลำตัวไปพร้อม ๆ กัน โดยพยายามให้ทุกส่วนอยู่ในแนวที่ตรงกัน (อย่าให้บิดเบี้ยว)
    เคลื่อนย้ายผู้ป่วย โดยให้ผู้ป่วยนอนหงายบนแผ่นกระดานแข็ง ๆ (เช่น โต๊ะ บานประตู) พันตัวผู้ป่วยไว้กับแผ่นกระดาน เพื่อป้องกันมิให้ผู้ป่วยพลิกตัว
    ถ้าสงสัยกระดูกต้นคอหัก ควรใช้กระดาษแข็ง หนังสือพิมพ์ หรือผ้าพับม้วนเป็นทบแล้วสอดเข้าใต้คอผู้ป่วย ทำเป็นปลอกคอใส่ไว้ เพื่อป้องกันมิให้คอขยับเขยื้อนเกิดอันตรายได้ เคลื่อนย้ายผู้ป่วยโดยให้นอนหงายบนแผ่นกระดานแข็ง และวางถุงทรายหรืออิฐขนาบระหว่างคอผู้ป่วยเพื่อมิให้ผู้ป่วยเอี้ยวหรือบิดคอ


การป้องกัน

การป้องกันไม่ให้ไขสันหลังได้รับบาดเจ็บที่สำคัญก็คือ การป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุบัติเหตุจราจร และการตกจากที่สูง

ข้อแนะนำ

1. เมื่อพบผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บตรงบริเวณคอหรือหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสงสัยอาจมีกระดูกคอหรือกระดูกหลังหัก หรือไขสันหลังได้รับการกระทบกระเทือน ควรระมัดระวังในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย เพื่อป้องกันมิให้ไขสันหลังได้รับอันตรายมากขึ้น

2. ผู้ป่วยไขสันหลังได้รับบาดเจ็บ มักได้รับการรักษาจนปลอดภัย แต่อาจมีความพิการ เดินไม่ได้ ซึ่งผู้ป่วยมักมีความรู้สึกท้อแท้ ซึมเศร้า ควรให้การดูแลปัญหาด้านจิตใจควบคู่กับด้านร่างกายพร้อม ๆ กันไป หาทางปลอบขวัญและให้กำลังใจ รวมทั้งเปิดโอกาสให้พบปะแลกเปลี่ยนกับกลุ่มผู้ป่วยแบบเดียวกัน (กลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน) เพื่อให้การช่วยเหลือและส่งเสริมกำลังใจซึ่งกันและกัน

อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยยังมีสติปัญญา และมือ 2 ข้างเป็นปกติดี สามารถนั่งรถเข็นหรือขับรถเดินทางไปไหนมาไหน ทำงานด้วยมือ 2 ข้าง มีอาชีพและคุณภาพชีวิตที่ดีได้

2
ดอกบัวในโถแก้ว: การเก็บรักษาดอกบัวแห้ง ให้อยู่นานขึ้น

การเก็บรักษาดอกบัวแห้งให้คงสภาพและสวยงามอยู่ได้นานนั้น ขึ้นอยู่กับวิธีการทำให้แห้งตั้งแต่แรกเริ่ม และการดูแลหลังจากที่ดอกบัวแห้งสนิทแล้วค่ะ ดอกบัวมีโอกาสสูงที่จะเปลี่ยนเป็นสีคล้ำหรือดำเมื่อแห้ง หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมตั้งแต่แรก

ทำไมดอกบัวแห้งถึงมีโอกาสดำคล้ำ?
ดอกบัวเป็นดอกไม้ที่มีปริมาณน้ำในกลีบและก้านสูง เมื่อนำมาทำให้แห้งโดยวิธีธรรมชาติ (เช่น การผึ่งลม) การระเหยของน้ำที่ช้าเกินไป ร่วมกับปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Oxidation) และการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์เล็กน้อยที่ยังคงหลงเหลืออยู่บนกลีบดอกบัวที่ยังมีความชื้น จะทำให้กลีบดอกบัวเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือดำคล้ำได้ง่าย โดยเฉพาะดอกบัวสีขาวและสีชมพูอ่อนจะเห็นชัดเจนที่สุดค่ะ


วิธีการทำให้แห้งเพื่อคงสภาพสี

การทำให้ดอกบัวแห้งโดยที่ยังคงสีสันไว้ได้ดีที่สุดมักต้องใช้วิธีพิเศษ ดังนี้:


การอบด้วยสารดูดความชื้น (Silica Gel):

วิธีที่แนะนำที่สุด: ซิลิกาเจลจะช่วยดูดความชื้นออกจากดอกบัวได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง ทำให้ดอกบัวคงรูปทรงและสีสันได้ดีที่สุด

วิธีการ: เตรียมภาชนะที่ปิดสนิท (เช่น กล่องพลาสติกที่มีฝาปิด) เทซิลิกาเจลบางส่วนลงไป วางดอกบัวลงไปอย่างระมัดระวัง (อาจใช้ไม้เสียบยึดดอกบัวไว้) จากนั้นค่อยๆ เทซิลิกาเจลกลบดอกบัวให้มิดทุกซอกทุกมุม ปิดฝาให้สนิท ทิ้งไว้ประมาณ 3-7 วัน (ขึ้นอยู่กับขนาดของดอกบัว) ดอกบัวจะแห้งสนิทและยังคงสีสันสวยงาม


การอัดแห้ง (Pressing):

เหมาะสำหรับดอกบัวที่แยกกลีบ: หรือดอกที่นำไปใช้ในงานฝีมือแบบแบน

วิธีการ: แยกกลีบดอกบัว หรือผ่าดอกบัวให้เป็นแผ่น วางลงบนกระดาษซับน้ำ (เช่น กระดาษหนังสือพิมพ์ หรือกระดาษ A4) แล้ววางทับด้วยกระดาษอีกแผ่น จากนั้นวางทับด้วยของหนักๆ (เช่น หนังสือหลายเล่ม) ทิ้งไว้ 2-4 สัปดาห์


การแขวนผึ่งลมในที่ร่มและแห้ง:

วิธีดั้งเดิม: เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด แต่มีโอกาสที่ดอกบัวจะดำคล้ำได้ง่ายกว่าวิธีอื่น โดยเฉพาะดอกบัวหลวง

วิธีการ: แขวนดอกบัวแบบกลับหัวในที่ร่ม อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่มีแสงแดดส่องโดยตรง และมีความชื้นต่ำ ใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือเป็นเดือน

การเก็บรักษาดอกบัวแห้งให้อยู่นานขึ้น
เมื่อดอกบัวแห้งสนิทแล้ว การเก็บรักษาอย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งานและคงความสวยงามไว้ได้นาน:


หลีกเลี่ยงความชื้น:

เก็บในภาชนะกันอากาศ: ใส่ดอกบัวแห้งในกล่องพลาสติกที่มีฝาปิดสนิท หรือถุงซิปล็อกที่ไล่อากาศออกให้มากที่สุด

ใส่สารดูดความชื้น: วางซองซิลิกาเจลเล็กๆ ไว้ในภาชนะที่เก็บดอกบัวแห้ง เพื่อช่วยดูดซับความชื้นที่อาจหลงเหลืออยู่


หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง:

แสงแดดจะทำให้สีของดอกบัวแห้งซีดจางและเปราะง่าย ควรเก็บไว้ในที่มืดหรือในกล่องที่ไม่โปร่งแสง


หลีกเลี่ยงฝุ่นละออง:

เก็บดอกบัวในภาชนะที่ปิดมิดชิด เพื่อป้องกันฝุ่นละอองมาเกาะ ซึ่งจะทำให้ดอกบัวดูไม่สะอาดและทำความสะอาดยากเนื่องจากเปราะบาง


หลีกเลี่ยงการสัมผัสบ่อยๆ:

ดอกบัวแห้งจะมีความเปราะบางสูง การสัมผัสบ่อยๆ อาจทำให้กลีบดอกหักหรือเสียหายได้ง่าย


อุณหภูมิที่เหมาะสม:

เก็บในอุณหภูมิห้องที่ค่อนข้างคงที่ ไม่ร้อนจัดหรือเย็นจัดเกินไป และไม่มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว


การเคลือบเงา (Optional):

สำหรับงานฝีมือบางชนิด อาจมีการเคลือบดอกบัวแห้งด้วยสเปรย์เคลือบเงา หรือสเปรย์อะคริลิค เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและป้องกันฝุ่นละออง แต่ควรเลือกสเปรย์ที่ไม่มีผลต่อสีของดอกไม้

การดูแลและเก็บรักษาดอกบัวแห้งอย่างถูกวิธีจะช่วยให้คุณสามารถชื่นชมความงามของดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์นี้ได้ยาวนานยิ่งขึ้นค่ะ


3
โรคเบาหวาน สังเกตอาการ สาเหตุที่เกิดโรคเบาหวาน

โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพหลายระบบ ทั้ง ฟันและเหงือก ตา ไต หัวใจ สมอง และหลอดเลือดแดง รวมทั้งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต,เศรษฐสังคม (socioeconomic effect) โดยมีการคาดการจาก International diabetes Federationว่าจะมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 366 ล้านคน ในปีค.ศ.2011 เป็น 552 ล้านคน ในปีค.ศ. 2030 สำหรับประเทศไทย พบผู้ป่วยเบาหวาน 3.5 ล้านคนและมีมูลค่าการรักษา 47,596 ล้านบาทต่อปี

ดังนั้นทุกคนควรดูแลและป้องกันโรคเบาหวานด้วยการปรับพฤติกรรมการบริโภคและออกกำลังกาย

ในกรณีที่เป็นโรคเบาหวาน การให้ความร่วมมือในการรักษาและติดตามการรักษากับแพทย์เป็นสิ่งสำคัญในการดูแล รักษาโรคเบาหวาน เพื่อที่จะได้ลดภาวะแทรกซ้อนและอยู่กับโรคเบาหวานได้อย่างมีความสุข


โรคเบาหวาน คืออะไร

เป็นกลุ่มโรคเกี่ยวกับการเผาผลาญอาหารซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน เนื่องจากขาดฮอร์โมนอินซูลิน หรือประสิทธิภาพของอินซูลินลดลง ซึ่งมีผลต่อการทำงานของระบบต่างๆในร่างกาย


ฮอร์โมนอินซูลินมีความสำคัญต่อร่างกายอย่างไร
   
อินซูลินเป็นฮอร์โมนสำคัญตัวหนึ่งของร่างกาย เพราะร่างกายคนเรานั้นรับประมานอาหารเข้าไปทุกวัน มีการเปลี่ยนแป้ง , โปรตีนให้เป็นน้ำตาล หากไม่มีอินซูลิน ก็จะส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานให้ส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ และยังทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเช่นกัน อีกทั้งยังทำให้เกิดโรคเบาหวานได้ อินซูลินสร้างและหลั่งจากเบต้าเซลล์ของตับอ่อน ทำหน้าที่เป็นตัวพาน้ำตาลกลูโคสเข้าสู่เนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกาย เพื่อเผาผลาญเป็นพลังงานในการดำเนินชีวิต


โรคเบาหวานแบ่งออกเป็น 4 ประเภท
   
    เบาหวานประเภทที่ 1 พบได้น้อย ประมาณร้อยละ 5 ของผู้ป่วยเบาหวานไทย ประเภทนี้เกิดจากตับอ่อนไม่สามารถสร้างอินซูลินได้ จึงต้องฉีดอินซูลินอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะขาดอินซูลิน และไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงจนเกิดไป เพราะอาจหมดสติ และเสียชีวิตได้อย่างเฉียบพลัน มักพบในเด็กและวัยรุ่น
    เบาหวานประเภทที่ 2 พบได้มาก ประมาณร้อยละ 95 ของผู้ป่วยเบาหวานไทย และส่วนใหญ่จะเป็นในกลุ่มคนอายุ 45 ปีขึ้นไป เกิดจากตับอ่อนไม่สามารถสร้างอินซูลินไปใช้ได้อย่างเพียงพอ และร่างกายเกิดภาวะดื้ออินซูลิน ประเภทนี้มักไม่อาการอย่างเฉียบพลัน แต่หากขาดการควบคุม ก็สามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังที่เป็นอันตรายอย่างเฉียบพลันได้
    เบาหวานประเภทที่ 3 เป็นเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์ (เบาหวานวินิจฉัยระหว่างไตรมาสที่ 2 หรือ 3 ของการตั้งครรภ์ โดยที่ไม่ได้เป็นเบาหวานก่อนหน้า)
    เบาหวานประเภทที่ 4 เป็นเบาหวานชนิดที่เกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น ความผิดปกติของสารพันธุกรรม monogenic diabetes syndromeหรือ Maturity onset diabetes of the young [MODY], จากยา , โรคของทางตับอ่อน เช่น cystic fibrosis


สาเหตุของการเกิด โรคเบาหวาน

สาเหตุของโรคเบาหวานมีหลายปัจจัยร่วมกันทั้งปัจจัยทางพันธุกรรม (genetic factor) และปัจจัยสิ่งแวดล้อม (environmental factor)

    กรรมพันธุ์
    น้ำหนักเกิน ความอ้วน ขาดการเคลื่อนไหว ขาดการออกกำลังกาย
    อายุที่มากขึ้น มีโอกาสเป็นเบาหวานได้มากขึ้น
    โรคของตับอ่อน เช่น ตับอ่อนอักเสบ ได้รับการผ่าตัดตับอ่อน
    การติดเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น หัด หัดเยอรมัน คางทูม ซึ่งมีผลต่อตับอ่อน
    ความเครียดเรื้อรัง
    การได้รับยาบางชนิด ทำให้มีการสร้างน้ำตาลมากขึ้นหรือการตอบสนองของอินซูลินได้ไม่ดี
    การตั้งครรภ์ เนื่องจากมีการสร้างฮอร์โมนจากรกหลายชนิด ซึ่งมีผลยับยั้งการทำงานของอินซูลิน


ใครบ้างที่เสี่ยงเป็น โรคเบาหวาน

    อายุมากกว่า 45 ปีขึ้นไป
    มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน
    เป็นผู้มีน้ำหนักเกิน หรือมีดัชนีมวลกาย(Body mass index; BMI) ตั้งแต่ 25 กิโลกรัมต่อตารางเมตร หรือ ตั้งแต่ 23 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ในคนเอเชีย
    ความดันโลหิตสูง (ความดันโลหิตตั้งแต่ 140/90 มิลลิเมตรปรอท)
    สตรีที่มีประวัติเบาหวานขณะตั้งครรภ์หรือน้ำหนักบุตรแรกคลอดมากกว่า 4 กิโลกรัม
    ไม่ออกกำลังกาย (physical inactivity)
    ดื่มสุรา
    สูบบุหรี่
    สตรีที่มีโรคถุงน้ำในรังไข่ (Polycystic ovary syndrome)
    เคยตรวจพบ ระดับน้ำตาลสะสม Hemoglobin A1C (Hb A1C) มากกว่าหรือเท่ากับ 5.7 % , ภาวะก่อนเป็นเบาหวาน (Impaired fasting glucose) คือมีระดับน้ำตาลในกระแสเลือด 100-125 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
    ไขมันชนิดชนิดเอชดีแอล (HDL) น้อยกว่า 35 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร หรือ ไตรกลีเซอไรด์(TG) มากกว่า 250 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
    ผู้ป่วยที่มีประวัติประวัติเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ, หลอดเลือดสมอง

คุณเป็นโรคเบาหวานหรือไม่
   
ตรวจว่าเป็นโรคเบาหวานหรือไม่ ทำได้โดยการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย และ ได้ผลดีโดยอาศัยเกณฑ์การวินิจฉัยดังนี้


ภาวะก่อนเป็นเบาหวาน

    ระดับน้ำตาลในเลือดขณะงดอาหาร (fasting plasma glucose)ระหว่าง 100-125 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร เริ่มผิดปกติ และมีแนวโน้มว่าจะเป็นเบาหวานเต็มขั้น ควรรีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อไม่ให้เป็นเบาหวาน


วินิจฉัยเบาหวาน

    มีระดับน้ำตาลในเลือดขณะงดอาหาร (fasting plasma glucose) มากกว่าหรือเท่ากับ 126 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
    มีอาการของโรคเบาหวาน ร่วมกับระดับน้ำตาลในเลือดเวลาใดก็ตาม (Random plasma glucose) มีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 200 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
    มีระดับน้ำตาลในเลือด มากกว่าหรือเท่ากับ 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ณ 2 ชั่วโมงภายหลังทดสอบความทนต่อน้ำตาลกลูโคส 75 กรัมที่รับประทานเข้าไป
    มีระดับน้ำตาลสะสม (HbA1c) มากกว่าหรือเท่ากับ 6.5 % ขึ้นไป


อาการของ โรคเบาหวาน

    ปัสสาวะบ่อยทั้งกลางวันและกลางคืน
    กระหายน้ำ
    อ่อนเพลีย และน้ำหนักลด
    หิวบ่อย รับประทานเก่งขึ้น
    คันตามตัว ติดเชื้อได้ง่าย เป็นเชื้อรา ตกขาวบ่อย
    ตาพร่า เห็นภาพไม่ชัด เห็นภาพซ้อน
    ปลายมือ ปลายเท้าชาอันเนื่องมาจากปลายประสาทเสื่อม


โรคแทรกซ้อนจาก โรคเบาหวาน
   
    ตา อาจเป็นต้อกระจกก่อนวัย จอตาเสื่อม ทำให้ตามัวลงเรื่อยๆ และอาจทำให้ตาบอดในที่สุด
    เท้า ทำให้มีอาการชาปลายมือปลายเท้า เกิดแผลได้ง่ายและ อาจก่อให้เกิดความพิการ
    ไต มักจะเสื่อม จนเกิดภาวะไตเสื่อมเรื้อรัง, โปรตีน (ไข่ขาวรั่วในปัสสาวะ)
    เป็นการติดเชื้อได้ง่ายเนื่องจากภูมิต้านทานต่ำ
    ภาวะคีโตซีส(ketosis)ผู้ป่วยมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน กระหายน้ำมาก หายใจหอบลึก มีไข้ กระวนกระวาย
    ผนังหลอดเลือดแดงแข็ง ทำให้เป็นความดันโลหิตสูง อัมพาต หัวใจขาดเลือด หลอดเลือดสมองตีบ โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลาย
    เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ


การรักษา โรคเบาหวาน

โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรัง ซึ่งยังไม่มีทางรักษาให้ขายขาด การรักษาจึงเพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้ใกล้เคียงเกณฑ์ปกติให้มากที่สุด รวมถึงความดันโลหิต ไขมันในเส้นเลือด และป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน ในการรักษาผู้ป่วยจึงต้องพบแพทย์ตามกำหนด ติดตามอาการเป็นระยะๆ

    การรักษาแบบไม่ใช้ยา (non pharmacologic treatment)
    การรักษาแบบใช้ยา (pharmacologic treatment)


สิ่งสำคัญที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรปฏิบัติ
   
    เลือกรับประทานอาหารจำพวกแป้งจากธัญพืชที่ไม่ขัดสี ในปริมาณที่พอเหมาะ
    พยายามงดอาหารรสจัด ไม่ว่าจะเป็นหวาน มัน หรือเค็ม (โซเดียมน้อยกว่า 1,500-2,000 มิลลิกรัมต่อวัน)
    รับประทานผัก และผลไม้ที่ไม่หวานจัดเพื่อเพิ่มกากใยอาหาร
    ควบคุมน้ำหนัก
    งดสูบบุหรี่ และงดดื่มสุรา
    ออกกำลังกายเป็นประจำในแบบแอโรบิค (moderate intensity) วันละ 30 นาที 5 ครั้งต่อสัปดาห์ ตามคำแนะนำของแพทย์ กรณีไม่มีข้อห้าม
    ระวังอย่ารับประทานยาใด ๆ เองโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ โดยเฉพาะยากลุ่มที่เป็นเสตียรอยด์ ยาฮอร์โมน หมั่นศึกษาหาความรู้ในการดูแลตนเอง
    ทำจิตใจให้สงบ และผ่อนคลายความเครียด ไม่โกรธ หรือโมโหง่าย
    ดูแลและตรวจเท้าทุกวัน เพื่อสำรวจแผลที่ง่ามนิ้วเท้า ฝ่าเท้า
    ดูแลสุขภาพฟัน
    ติดตามผลการรักษาอย่างสม่ำเสมอ
    รับประทานยาเพื่อควบคุมความดันโลหิต หรือเบาหวานตามคำแนะนำของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
    ผู้ป่วยและผู้ดูแลสังเกตอาการผิดปกติเนื่องจากภาวะน้ำตาลต่ำหรือสูงเกินไป เช่น หน้ามืด ใจสั่น หมดสติ


ภาวะน้ำตาลต่ำ คืออะไร

ภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือด น้อยกว่าหรือเท่ากับ 70 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร กรณีใช้ยา โดยเฉพาะกลุ่มอินซูลิน, ยารับประทานบางกลุ่ม

อาการ: หน้ามืด ใจสั่น หมดสติ แต่ในบางรายอาจจะไม่แสดงอาการได้


วิธีแก้ไขที่บ้าน

    รับประทานน้ำตาล (15-20 กรัม) ใช้ในผู้ป่วยที่รู้สึกตัว หลังจากนั้น15 นาทีให้ตรวจเลือดซ้ำ ถ้าระดับน้ำตาลยังต่ำให้รับประทานน้ำตาลซ้ำและเจาะเลือดอีกครั้ง ถ้าระดับน้ำตาลปกติให้ทานอาหารต่อ
    กรณีไม่รู้สึกตัว ให้นำส่งโรงพยาบาลทันที
    การฉีดกลูคากอน (Glucagon) ใช้ในผู้ที่มีระดับน้ำตาลต่ำแบบรุนแรง (severe hypoglycemia)
    การป้องกัน
    มีเครื่องตรวจน้ำตาลปลายนิ้วที่บ้าน (self- monitoring blood glucose; SMBG)
    สถานการณ์เสี่ยงต่อภาวะน้ำตาลต่ำ
    การเตรียมตัว งดน้ำ งดอาหารมาก่อนเจาะเลือด (fasting for tests)
    ระหว่างหรือหลังออกกำลังกายอย่างหนัก
    ระหว่างนอนหลับ

วัคซีนสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
   

    ไข้หวัดใหญ่ ฉีดทุกปี (แนะนำช่วงเดือนพฤษภาคม ก่อนเข้าหน้าฝน 1 เดือน)
    แบคทีเรียนิวโมคอคคัส (invasive pneumonia) ฉีด 1-2 ครั้ง (pneumococcal 13 valent conjugate (pcv13) และ/หรือ Pneumococcal polysaccharide vaccine (PPSV23))
    *** อายุมากกว่า65 ปี แนะนำฉีด pcv13 และ PPSV23***
    ไวรัสตับอักเสบบี กรณียังไม่มีภูมิคุ้มกัน
    วัคซีนอื่นๆ เช่น บาดทะยัก, คอตีบ (dT) ทุก 10 ปี, งูสวัด (Zoster) 1 ครั้ง

4
จัดฟันบางนา: วิธีการดูแล การจัดฟันแบบใส Invisalign

การจัดฟันแบบใส invisalign

การจัดฟันทุกรูปแบบ ต้องได้รับการดูแลรักษามากเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการเกิดฟันผุและปัญหาโรคเหงือก ซึ่งการจัดฟันแบบใส เป็นนวัตกรรมทางทันตกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการจัดฟันที่ไม่ต้องใส่เหล็กจัดฟันในช่องปาก

ซึ่งจะมีเครื่องมือที่สามารถมองเห็นได้ยาก ทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟัน สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบาย แต่ผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใส จะต้องเอาใจใส่และมีวินัยในการปฏิบัติตัว ภายหลังจากที่เข้ารับการจัดฟันแบบใส และได้ทำการใส่เครื่องมือจัดฟันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต้องทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์เพื่อให้การจัดฟันมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

วิธีการง่ายของการจัดฟันแบบใส ก็คือ การแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ และต้องใส่เครื่องมือการจัดฟันตลอดเวลา อย่างน้อย 20-22 ชั่วโมง โดยต้องแปรงฟันให้สะอาด เพื่อป้องกันเศษอาหารเข้าไปติดในซอกฟัน และควรทำความสะอาดเครื่องมือทุกครั้งหลังจากที่เข้ารับการจัดฟันแบบใส Invisalign การล้างเครื่องมือให้สะอาดนั้นจำเป็นอย่างยิ่ง

โดยเฉพาะการที่ผู้เข้ารับการรักษาต้องใส่มันไปในระยะยาว มีหลายคนใช้แปรงสีฟันกับยาสีฟันทำความสะอาดอุปกรณ์ แต่ว่าการขัดที่แรงเกินไปอาจจะทำให้เกิดรอยบนอุปกรณ์ได้ ลองใช้แค่น้ำในอุณหภูมิปกติกับสบู่ทำความสะอาดก็พอแล้ว

นอกจากนี้การดื่มน้ำให้มากๆ ก็เป็นอีกวิธีการทำความสะอาดและปัญหาของสุขภาพฟัน ช่วงที่ผู้เข้ารับการจัดฟันใส่เครื่องมือเข้าไปแรกๆ ช่องปากก็จะปรับตัวเข้ากับสิ่งใหม่ที่เข้ามานี้โดยผลิตน้ำลายมากกว่าปกติ การดื่มน้ำมากขึ้นก็จะช่วยในเรื่องนี้ได้ และไม่นานหลังจากนั้นร่างกายของคุณก็จะปรับตัวเข้ากับเครื่องมือการจัดฟันได้อย่างเป็นธรรมชาติเอง นี่ก็เป็นเกร็ดความรู้ดีๆ เกี่ยวกับการดูรักษาและดูแลตัวเอง ภายหลังจากการเข้าเข้ารับการจัดฟันแบบใส

5
จัดฟันบางนา: อาการของผู้ที่ ไม่สามารถ จัดฟันแบบใส ได้ !

การจัดฟันแบบใส ถือเป็นการจัดฟันที่เป็นที่นิยมมาก เพราะการจัดฟันแบบใสมีจุดเด่นมากกว่าการจัดฟันในรูปแบบอื่นๆ การจัดฟันแบบใสมีข้อจำกัดในการรักษาหลายอย่าง ถึงแม้จะเป้นการจัดฟันที่เป็นที่นิยม และมีการนำนวัตกรรมสมัยใหม่เข้ามาใช้ แต่ในเรื่องของข้อจำกัดก็มี และไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้ารับการจัดฟันแบบใสได้ ข้อจกกัดในการรักษาถือเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะต้องระวังมากเป็นพิเศษ ผู้ที่จะเข้ารับการรักษาจะต้องบอกข้อมูลอย่างละเอียดแก่ทันตแพทย์ผู้ทำการรักษา เพื่อที่จะช่วยให้ผลการรักษาประสบความสำเร็จ ทันตแพทย์จะทำการวางแผนการรักษา

ซึ่งแผนการรักษาในแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน เพราะมีสภาพฟันและปัญหาที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นก่อนเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม ทันตแพทย์จะทำการตรวจช่องปากอย่างละเอียด โดยจะดูปัจจัยหลักๆจองการฝังรากฟันเทียม เช่น ดูบริเวณฟันโดยรอบ กระดูกขากรรไกรที่ใช้รองรับรากฟันเทียม รวมถึงโรคที่เกี่ยวกับช่องปากที่ทันตแพทย์ต้องทำการตรวจ เพราะบางโรคทันตแพทย์อาจจะไม่แนะนำให้จัดฟันแบบใส เพราะจะทำให้เกิดอันตราย หรือบางครั้งในการจัดฟันแบบใสอาจจะไม่มีผลดีต่อช่องปากของผู้เข้ารับการรักษา

หากผู้ที่จะเข้ารับการรักษาเป็นโรคเหงือกอักเสบ จะต้องทำการปรึกษาทันตแพทย์ผู้เข้ารับการนรักษาก่อนเข้ารับการจัดฟัน ซึ่งบางกรณีวัสดุที่เป็นในส่วนของเครื่องมือจัดฟัน อาจจะส่งผลต่อผู้เข้ารับการรักษาได้ด้วย ซึ่งวัสดุที่เป็นเครื่องมือการจัดฟัน ผู้ป่วยอาจจะเกิดอาการแพ้ เพราะฉะนั้นถ้าหากมีความผิดปกติ ผู้เข้ารับการรักษาควรเข้าปรึกษาทันตแพทย์ผู้ทำการรักษาทันที และต้องหยุดใช้เครื่องมือ อาการผิดปกติอาจจะสังเกตได้คือ ผู้เข้ารับการรักษาอาจจะมีอาการบวมแดง หรืออาการอักเสบ หลังจากใช้เครื่องมือการจัดฟัน หากไม่หยุดใช้อาจจะเกิดผลเสียต่อการรักษาและช่องปากได้

เพราะฉะนั้น หลังจากการเข้ารับการจัดฟัน ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องคอยสังเกตอาการผิดปกติ และหากมีปัญหาควรรีบปรึกษาทันตแพทย์โดยด่วน การรักษาทางการจัดฟันแบบใส เป็นการจัดฟันที่ไร้ลวดเหล็ก ซึ่งประกอบด้วยชุดเครื่องมือจัดฟันแบบใส แบบถอดได้ ที่จะต้องเปลี่ยนทุก 2 สัปดาห์ ตามลำดับของชิ้นเครื่องมือ โดยเครื่องมือจะออกแบบและผลิตขึ้นมาเฉพาะบุคคล เพราะสภาพฟันของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน เป็นเครื่องมือที่ใส่สบาย ไม่ระคายเคืองปาก และยังสามารถรับประทานอาหาร ทำความสะอาดฟันได้ตามปกติ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการหลุดของเครื่องมือ

นอกจากนี้การปฏิบัติตัวขณะการจัดฟันแบบใส ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องมีวินัยในการใส่เครื่องมือการจัดฟัน เพราะด้วยเครื่อวมือที่สามารถถอดออกได้ขณะรับประทานอาหาร และขณะแปรงฟัน อาจจะทำให้ผู้เข้ารับการรักษาเผลอลืมใส่เครื่องมือ หากลืมบ่อยๆก็จะส่งผลต่อการรักษาทันที

ในการรับประทานอาหาร ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องถอดเครื่องมือทุกครั้ง เพราะการใส่เครื่องมือจัดฟันและรับประทานอาหารไปด้วย จะส่งผลให้เครื่องมือเกิดความเสียหายได้ รวมไปถึงการดื่มเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะเป็นร้อนหรือเย็นก็ควรถอดเครื่องมือ ยิ่งถ้าเป็นเครื่องดื่มที่ร้อน แม้ว่าจะเป็นน้ำร้อนก็ควรจะถอดเครื่องมือ เพราะความร้อนของเครื่องดื่ม อาจจะส่งผลให้เครื่องมือบิดเบี้ยวได้ เพราะฉะนั้นนอกจากการดูแลสุขภาพช่องปาก การดูแลรักษาเครื่องมือก็ถือว่าสำคัญมากเช่นกัน หากคุณสนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส ทางคลีนิคเรามีทีมทันตแพทย์คอยให้คำปรึกษา โดยทีมทันตแพทย์ของเรามีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ในการจัดฟันทุกรูปแบบ นอกจากนี้ทางคลีนิคของเรายังมีการบริการทางทันตกรรมที่ครบวงจร มีความเป็นมืออาชีพ ซึ่งทำให้ผู้เข้ารับการรักษามั่นใจว่า คุณจะมีสุขภาพช่องปากและฟันและฟันที่ดีขึ้นมากอย่างแน่นอน

6
บริการด้านอาหาร: อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง

ในปัจจุบัน โรคความดันโลหิตสูง เป็นโรคยอดฮิตของผู้สูงอายุในประเทศไทย เกิดได้จากกรรมพันธุ์และสิ่งแวดล้อม และโรคความดันโลหิตสูงยังเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคไต อันเป็นสาเหตุถึงขั้นรุนแรงที่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ ดังนั้น การปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตนั้น เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการป้องกันความดันโลหิตสูง สำหรับการดูแลผู้ป่วยที่มีโรคความดันโลหิตสูงในผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน รวมไปถึงจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารด้วย เพราะอาหารก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดโรคอื่นๆตามมา เช่น โรคเบาหวาน ซึ่งก็จะนำไปสู่การเป็นความดันโลหิตสูงได้นั่นเอง

โดยปัจจัยเสี่ยงที่จะเป็นการส่งเสริมให้เกิดความดันโลหิตสูงก็มีอยู่ด้วยกันหลายปัจจัยเช่น อ้วนหรือมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน มีไขมันในเลือดสูง ดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนัก รับประทานเค็มเป็นประจำ ขาดการออกกำลังกาย หรือมีภาวะดื้ออินซูลินหรือเป็นเบาหวาน แต่เราสามารถบรรเทาให้อาการดีขึ้นด้วยการใช้อาหารบำบัด เพราะอย่างที่เราบอกไปตั้งแต่ต้นว่า อาหารเป็นสิ่งสำคัญที่จะเป็นข้อบ่งชี้ในการเกิดโรคต่างๆได้ หากเราไม่เลือกรับประทานอาหารหรือรับประทานอาหารแต่อาหารที่ไม่มีประโยชน์ ก็สามารถทำให้เราเกิดโรคภัยไข้เจ็บได้แล้ว ดังนั้น วันนี้เราจะมาแนะนำอาหารบำบัดสำหรับผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง เพื่อที่จะได้บรรเทาและถูกกับโรคด้วย เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ป่วยหรือคนที่อยู่ในภาวะเสี่ยงได้เลือกรับประทานอาหารได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมมากที่สุด

การเลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยผัก ผลไม้ นม และผลิตภัณฑ์จากนมที่ไขมันต่ำ รวมถึงการลดการบริโภคไขมันอิ่มตัว จำกัดการดื่มชา-กาแฟ เลิกสูบบุหรี่ ลดภาวะเครียด ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น เต้าหู้ ผักใบเขียว นมพร่องมันเยน เช่น โยเกิร์ตไขมันต่ำ ผักสดทุกชนิด เช่น กะหล่ำปลี ผักกาดขาว ไขมันจากพืช เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลืองน้ำมันงา น้ำมันดอกคำฝอย ที่สำคัญที่สุดคือ ต้องจำกีดปริมาณของโซเดียมให้ได้ เนื่องจากโซเดียม เป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่ง ที่คอยทำหน้าที่ปรับสมดุลของของเหลวในร่างกาย ควบคุมการเต้นของหัวใจ

และมีผลต่อความดันโลหิต พบได้จากอาหารตามธรรมชาติ เช่น เนื้อสัตว์ ข้าว ผัก โดยมีปริมาณเล็กน้อย แต่คนส่วนใหญ่ได้รับโซเดียมเกินจากเครื่องปรุงรส เช่น เกลือ ซีอิ๊ว น้ำปลา ผงปรุงรสและอาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก หมูหยอง กุนเชียง รวมถึงอาหารกระป๋อง เช่น ผักกาดดอง ไข่เค็ม เต้าหู้ยี้ กุ้งแห้ง ปลาเค็ม เป็นต้น การควบคุมปริมาณโซเดียมสำหรับผู้ที่มีโรคความดันโลหิตสูงที่เหมาะสม ไม่ควรเกิน 2,000 มิลลิกรัมของโซเดียมต่อวัน จะสามารถลดความดันได้ 2-8 มิลลิเมตรปรอท และหากผู้ป่วยบริโภคอาหารตามหลักโภชนาการร่วมกับการจำกัดปริมาณโซเดียม ก็จะสามารถควบคุมความดันโลหิตได้ดีกว่าการควบคุมเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง

นอกจากนี้ อาหารที่มีโพแทสเซียมสูง ที่พบมากในผัก ผลไม้ และถั่วชนิดต่างๆ โดยโพแทสเซียมจะเพิ่มการขับน้ำและโซเดียมออกจากร่างกาย จึงช่วยป้องกันและควบคุมความดันโลหิตสูง รวมไปถึง อาหารที่มีแคลเซียม เช่น นมและผลิตภัณฑ์จากนม ปลาที่กินได้ทั้งกระดูก และผักสีเขียวเข้มบางชนิด ช่วยควบคุมความดันโลหิตและควบคุมน้ำหนักตัว และแมกนีเซียม พบมากในผักใบเขียว ธัญพืช และถั่วชนิดต่างๆ มีบทบาทในการยับยั้งการหดตัวของกล้ามเนื้อเรียบที่ผนังหลอดเลือดช่วยในการขยายตัวของหลอดเลือดทำให้ความดันโลหิตลดลงได้นั่นเอง แต่ในขณะเดียวกันเราก็ควรเลี่ยงอาหารบางชนิด เพราะมีผลทำให้ความดันโลหิตสูง ได้แก่ อาหารที่มีโซเดียมสูง อาหารรสเค็ม ควรงดการเติมเครื่องปรุงรส อาหารหมักดอง อาหารแปรรูป หรือไขมันจากสัตว์และพืชบางชนิด

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดในการดูแลรักษาสุขภาพคือ เราควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพราะเราเน้นย้ำมาตลอดให้ทุกคนเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ในปริมาณที่เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ ที่สำคัญเราจะต้องดูแลตัวเองให้มากๆ ดื่มน้ำมากๆ และหมั่นออกกำลังกายเป้นประจำ เราก็จะไม่เสี่ยงที่จะเกิดโรคอ้วนหรือโรคอื่นๆที่อาจจะตามมาได้จากการรับประทานอาหารของเราแล้ว

7
อายุการใช้งานของผ้ากันไฟ ที่ใช้ในโรงงาน

อายุการใช้งานของผ้ากันไฟที่ใช้ในโรงงานนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ซึ่งส่งผลต่อความทนทานและประสิทธิภาพของผ้า โดยปัจจัยหลัก ๆ ที่มีผลต่ออายุการใช้งานมีดังนี้:

ประเภทของวัสดุ:
ผ้าใยแก้ว: มีอายุการใช้งานประมาณ 12-24 เดือน ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและการบำรุงรักษา
ผ้าซิลิกา: มีความทนทานสูงกว่าผ้าใยแก้ว และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า
ผ้าเคฟลาร์: มีความทนทานสูงมาก และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานที่สุด

สภาพแวดล้อมการทำงาน:
การสัมผัสกับความร้อนสูง: อุณหภูมิที่สูงเกินไปจะทำให้ผ้ากันไฟเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
สารเคมี: การสัมผัสกับสารเคมีบางชนิดอาจทำให้ผ้ากันไฟเสื่อมสภาพหรือเสียหาย
ความชื้น: ความชื้นอาจทำให้ผ้ากันไฟเสื่อมสภาพหรือเกิดเชื้อรา
การใช้งานกลางแจ้ง: การใช้งานกลางแจ้งที่ต้องโดนทั้งแดดและฝนตลอดเวลา จะทำให้อายุการใช้งานสั้นลง ประมาณ 6-12 เดือน

การใช้งานและการบำรุงรักษา:
การใช้งานอย่างระมัดระวัง: การใช้งานอย่างระมัดระวัง ไม่กระชากลากถูไปโดนของมีคม จะช่วยยืดอายุการใช้งานของผ้ากันไฟได้
การทำความสะอาด: การทำความสะอาดผ้ากันไฟอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรกและสารเคมี
การเก็บรักษา: การเก็บรักษาผ้ากันไฟในที่แห้งและเย็นจะช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพ

คำแนะนำเพิ่มเติม

ควรตรวจสอบสภาพของผ้ากันไฟเป็นประจำ เพื่อหารอยชำรุดหรือความเสียหาย
หากพบรอยชำรุดหรือความเสียหาย ควรเปลี่ยนผ้ากันไฟทันที
ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตในการใช้งานและการบำรุงรักษาผ้ากันไฟ
โดยสรุปแล้ว อายุการใช้งานของผ้ากันไฟในโรงงานนั้นแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ การดูแลรักษาและการตรวจสอบสภาพอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ผ้ากันไฟมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและมีประสิทธิภาพในการป้องกันอัคคีภัย

8
motor show 2025: Ford อวดโฉมรถแต่ง Ranger MS-RT โดดเด่นกลางบูธ พร้อมจัดเต็มแคมเปญสุดคุ้ม

ฟอร์ด ประเทศไทย ร่วมกับ ผู้จำหน่ายฟอร์ด และ อาร์เอ็มเอ พันธมิตรผู้ดัดแปลงที่ผ่านการรับรองจากฟอร์ด ประเทศไทย เปิดตัวรถฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT โดยการนำชุดแต่งของ MS-RT สำนักแต่งรถชื่อดังจากประเทศอังกฤษมาติดตั้งบนรถกระบะยอดฮิต ฟอร์ด เรนเจอร์ ให้มีความแตกต่างอย่างโดดเด่น และมอบประสบการณ์ขับขี่สุดเร้าใจ

เอาใจคนรักรถกระบะสไตล์เรซซิ่ง พร้อมจัดแสดงรถกระบะ 4 ประตูยกสูง ฟอร์ด เรนเจอร์ XLS รุ่นปี 2024 ที่ปรับลุคใหม่ให้ดูสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยการตกแต่งสีดำรอบคัน พร้อมจัดข้อเสนอต่อเนื่องจากแคมเปญสุดคุ้มส่งท้ายปี 'ฟอร์ด เอ็กซ์โป' ให้กับลูกค้าในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป  2024 ที่บูธฟอร์ด (A04) อาคารอิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี และที่ผู้จำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศตลอดช่วงเวลาการจัดงานตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2567

"ฟอร์ดรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับผู้จำหน่ายฟอร์ดและอาร์เอ็มเอในการเปิดตัวฟอร์ด เรนเจอร์ พร้อมชุดแต่ง MS-RT เป็นครั้งแรก หลังจากเราได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากการจัดแสดงรถต้นแบบเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดรถยนต์ไทย ฟอร์ด ผู้จำหน่ายฟอร์ดและอาร์เอ็มเอ จึงนำนวัตกรรมที่แตกต่างอย่างเป็นเอกลักษณ์มานำเสนอให้กับลูกค้าชาวไทย โดยนำเสนอครั้งแรกเพียง 200 คัน เท่านั้น" นายรัฐการ จูตะเสน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว

 นอกจากนี้ ฟอร์ดยังจัดแสดงรถฟอร์ดรุ่นยอดนิยมอีกมากมาย ภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 41 นำโดย
ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ รถกระบะสมรรถนะสูง เจ้าของฉายา King of Tough จุดสูงสุดสำหรับนิยาม 'แกร่งจริงทุกคัน ดุดันทุกสถานการณ์' ของรถตระกูลเรนเจอร์ พร้อมด้วยตัวเลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร และเครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร วี 6 มอบประสบการณ์การขับขี่แบบเต็มพิกัดให้กับผู้ที่หลงใหลในการขับขี่ออฟโรด ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อและโหมดการขับขี่ถึง 7 โหมด รวมถึงโหมดบาฮาที่เป็นเอกลักษณ์

 ฟอร์ด เอเวอเรสต์ รถยนต์นั่งอเนกประสงค์สำหรับลูกค้าที่แสวงหาสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยมทั้งบนทางเรียบและออฟโรด ผสานกับความสะดวกสบายในห้องโดยสาร ตอบสนองการใช้งานของผู้ขับขี่ทุกกลุ่มด้วยเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะ และระบบความปลอดภัยเหนือระดับ

ฟอร์ดพร้อมมอบข้อเสนอสุดเร้าใจที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของลูกค้าทุกรูปแบบ ทั้งในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป และที่ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของฟอร์ดทั่วประเทศ ตลอดระยะเวลาจัดงาน ลูกค้าสามารถเยี่ยมชมบูธฟอร์ดและรับข้อเสนอสุดคุ้มมากมายได้ ดังนี้
ฟอร์ด เรนเจอร์ XLS ใหม่ รุ่นปี 2024 กระบะ 4 ประตูยกสูง เกียร์อัตโนมัติ ราคาพิเศษช่วงเปิดตัว 799,000 บาท จากราคาปกติ 919,000 บาท
ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรก 2.0 ลิตร ขับเคลื่อนสองล้อ เกียร์อัตโนมัติ ราคาพิเศษ 999,000 จากราคาปกติ 1,089,000 บาท
ฟอร์ด เรนเจอร์ สปอร์ต เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ 6AT ดอกเบี้ย 0% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง
ฟอร์ด เรนเจอร์ สตอร์มแทรค เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ไบ-เทอร์โบ 10AT ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง
ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร V6 ดอกเบี้ยพิเศษ 0% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง
ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ไบ-เทอร์โบ ราคาพิเศษเพียง 1,699,000  บาท จากราคาปกติ 1,799,000 บาท หรือดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง
ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร V6 ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เทรนด์ 4x2 ราคาพิเศษ 1,249,000 บาท จากราคาปกติ 1,392,000 บาท
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ Sport 4x2 6AT ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อมชุดแต่ง Adventure Package ในราคาสุดพิเศษเพียง 9,900 บาท จากราคาปกติ 59,567 บาท
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไทเทเนียม พลัส 4x4 6AT ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ แพลทินัม ดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง
พิเศษ! เมื่อจองรถฟอร์ดรุ่นใดก็ได้ในงานนี้  รับฟรี กระเป๋าเดินทางฟอร์ดดีไซน์หรู มูลค่า 3,900
รถฟอร์ดทุกรุ่นมาพร้อมโปรแกรม Ford Care การรับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังนาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน และฟรีค่าแรงเช็กระยะ พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี

ตอกย้ำการดูแลลูกค้าเสมือนคนในครอบครัว
ฟอร์ดยังคงมุ่งมั่นเสริมสร้างประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถยนต์ฟอร์ดที่ดีที่สุด พร้อมดูแลลูกค้าเสมือนคนในครอบครัว ผ่านกลยุทธ์ สะดวก มั่นใจ ประทับใจ ด้วยบริการที่ตอบโจทย์ชีวิตยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นบริการนัดหมายออนไลน์ (Online Service Booking) หน่วยบริการเคลื่อนที่ (Mobile Service Vehicle) บริการรับ-ส่งรถนอกสถานที่ (Pick Up & Delivery) และบริการตรวจเช็กตามระยะรวดเร็วภายในเวลา 60 นาที (Express Service 60 Minutes Guarantee) ซึ่งมียอดการใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีต่อบริการของฟอร์ด

9
ปล่อยรถผู้บริหาร Mercedes-Benz AMG GLC43 4Matic Coupe facelift ปี 2021

Mercedes-Benz AMG GLC43 4MATIC Coupe Facelift ปี 2021 เป็นรถยนต์ที่ผสมผสานความสปอร์ตของ AMG เข้ากับความอเนกประสงค์ของ SUV ในสไตล์ Coupe ที่โฉบเฉี่ยว ถือเป็นรุ่นที่ได้รับการปรับโฉม (facelift) ที่มีการอัปเกรดทั้งในด้านสมรรถนะ ดีไซน์ และเทคโนโลยีภายใน

ภาพรวมและจุดเด่น
ดีไซน์: โดดเด่นด้วยรูปทรงแบบ SUV Coupe ที่หลังคาลาดเอียงลงด้านท้าย ให้ความรู้สึกสปอร์ตและปราดเปรียวมากขึ้น โดยเฉพาะในรุ่น Facelift ปี 2021 มีการปรับดีไซน์กระจังหน้า Panamericana Grille อันเป็นเอกลักษณ์ของ AMG ไฟหน้า LED ดีไซน์ใหม่ และกันชนหน้า-หลังที่ดุดันยิ่งขึ้น

สมรรถนะ: หัวใจหลักของ AMG คือสมรรถนะที่เร้าใจ ในรุ่นปี 2021 นี้ GLC43 Coupe ยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน V6 Twin-Turbo ขนาด 3.0 ลิตร ซึ่งได้รับการปรับจูนเพิ่มกำลังเป็น 390 แรงม้า (จากเดิม 367 แรงม้า) และแรงบิด 520 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายในประมาณ 4.9 วินาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT TCT 9 สปีด และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AMG Performance 4MATIC ที่เน้นการส่งกำลังไปที่ล้อหลัง (Rear-biased torque distribution: 31% หน้า / 69% หลัง) เพื่อความรู้สึกในการขับขี่ที่สปอร์ตยิ่งขึ้น

หมายเหตุ : รายละเอียดของรถยนตอ์าจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 11 มิ.ย. - 30 มิ.ย. 2568

ราคาพิเศษ 2,890,000 บาท

สนใจสอบถา มรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

รายละเอียดทางเทคนิค (โดยประมาณสำหรับรุ่น 2021 Facelift)

เครื่องยนต์: เบนซิน V6 Twin-Turbo
ความจุ: 2,996 ซีซี (3.0 ลิตร)
กำลังสูงสุด: 390 แรงม้า ที่ 5,500-6,100 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด: 520 นิวตันเมตร ที่ 2,500-5,000 รอบ/นาที
ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT TCT 9 สปีด
ระบบขับเคลื่อน: 4MATIC All-Wheel Drive
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: ประมาณ 4.9 วินาที
ความเร็วสูงสุด: 250 กม./ชม. (จำกัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์)



10
Doctor At Home: หลอดเลือดแดงหลักของจอตาอุดตัน (Central retinal artery occlusion, CRAO)

หลอดเลือดแดงหลักของจอตาอุดตัน เป็นสาเหตุสำคัญหนึ่งที่ทำให้สายตาพิการที่เกิดขึ้นฉับพลันทันที โรคนี้พบได้ค่อนข้างน้อย (พบได้ประมาณ 1 รายต่อประชากร 100,000 คนต่อปี) มักพบในผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป ซึ่งส่วนใหญ่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยผู้ป่วยมีอายุเฉลี่ยอยู่ในช่วง 60 ปี พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ส่วนมากมักเกิดข้างเดียว มีเพียงราวร้อยละ 1-2 ที่พบว่าเกิดทั้ง 2 ข้าง

โรคนี้ถือว่าเป็นภาวะฉุกเฉิน ที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้ตาบอด และภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ

สาเหตุ

ส่วนใหญ่เกิดจากการที่มีสิ่งหลุดอุดหลอดเลือด (embolus) ได้แก่ คราบไขมัน (cholesterol embolus) ซึ่งเกิดขึ้นที่หลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอ (carotid artery) และคราบหินปูน (calcified embolus) หรือลิ่มเลือด (thrombus) ซึ่งเกิดขึ้นที่หัวใจ หลุดลอยเข้าไปอุดตันในหลอดเลือดแดงหลักของจอตา ทำให้เซลล์ประสาทของจอตาขาดเลือดไปเลี้ยง เกิดอาการตามืดบอดอย่างฉับพลัน

บางรายอาจเกิดจากภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอตีบ (carotid stenosis) เลือดไหลเข้าไปในหลอดเลือดแดงหลักของจอตาได้น้อย จอตาจึงขาดเลือดไปเลี้ยง

ผู้ป่วยที่เกิดจากสิ่งหลุดอุดหลอดเลือดจากคราบไขมันที่หลุดลอยมาจากหลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอ หรือภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอตีบ มักมีอายุมากกว่า 40-50 ปีขึ้นไป และมักมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง (atherosclerosis) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจและหลอดเลือด (เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคอ้วน การสูบบุหรี่ เป็นต้น) หรือมีประวัติเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด (เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหลอดเลือดสมอง) อยู่เดิม

ส่วนผู้ป่วยที่มีสาเหตุเกี่ยวกับความผิดปกติอื่น ๆ ของหัวใจ มักมีอายุน้อยกว่า 40 ปี และมักเกิดจากสิ่งหลุดอุดหลอดเลือดจากคราบหินปูนซึ่งเกิดที่ลิ้นหัวใจที่ผิดปกติ นอกจากนี้ ยังอาจมีสาเหตุจากโรคหัวใจอื่น ๆ เช่น ภาวะหัวใจห้องบนเต้นแผ่วระรัว (atrial fibrillation ซึ่งก่อให้เกิดลิ่มเลือดหลุดลอยไปอุดตันในหลอดเลือดแดงหลักของจอตา) เยื่อบุหัวใจอักเสบ (endocarditis ซึ่งก่อให้เกิดสิ่งหลุดอุดหลอดเลือดจากคราบเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อ หรือ septic embolus)

ผู้ป่วยส่วนน้อยอาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น โรคเลือดข้นหรือภาวะเม็ดเลือดแดงมาก (polycythemia) ภาวะเลือดแข็งตัวเร็ว (จากการกินยาคุมกำเนิด ความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด หรือจากสาเหตุอื่น ๆ) หลอดเลือดแดงขมับอักเสบ (temporal arteritis หรือ giant cell arteritis) ต้อหิน การฉีดสารเสพติด (ทำให้เกิดสิ่งหลุดอุดหลอดเลือดจากสิ่งแปลกปลอม หรือ foreign body embolus)

อาการ

มีอาการตามืดมัวข้างเดียวอย่างฉับพลันทันที ภายในเวลาไม่กี่วินาที โดยที่ไม่มีอาการปวดตาร่วมด้วย ส่วนใหญ่จะมีสายตามืดมัวรุนแรง จนอาจเหลือเพียงแค่นับนิ้ว (counting finger) ของผู้ตรวจ หรือเพียงบอกทิศทางที่มาของแสง (light perception) ซึ่งมักจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและถาวร

บางรายอาจมีอาการตามืดบอดชั่วคราวนำมาก่อน นานแค่นับเป็นวินาทีหรือเป็นนาที (นานสุดไม่เกิน 2 ชั่วโมง) แล้วทุเลาเป็นปกติไปได้เอง เรียกว่า อาการตามืดบอดชั่วขณะ (amaurosis fugax) ซึ่งเกิดจากหลอดเลือดแดงหลักของจอตาอุดตันเพียงชั่วคราว (transient CRAO)

ในรายที่เกิดหลอดเลือดแดงหลักของจอตาอุดตัน 2 ข้าง จะมีอาการมืดมัวพร้อมกันทั้ง  2 ข้าง

ภาวะแทรกซ้อน

ที่พบบ่อยคือ สายตามืดบอดถาวร เนื่องจากเซลล์ประสาทที่จอตาตายหรือเสื่อมสภาพอย่างถาวรหลังจากขาดเลือดนานเกิน 4 ชั่วโมง ซึ่งมีผู้ป่วยน้อยรายที่จะไปรับการรักษาจากแพทย์ได้ภายใน 4 ชั่วโมง

ผู้ที่ป่วยด้วยโรคนี้ มีโอกาสเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองมีลิ่มเลือดอุดตัน (อัมพาตครึ่งซีก) และโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหนึ่งสัปดาห์หลังเป็นหลอดเลือดแดงหลักของจอตาอุดตัน

ผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดสมองมีลิ่มเลือดอุดตัน (อัมพาตครึ่งซีก) สูงเป็น 10 เท่าของคนทั่วไปในระยะ 3.5 ปีหลังเป็นหลอดเลือดแดงหลักของจอตาอุดตัน และยังคงมีความเสี่ยงต่อไปนานนับ 10 ปี

นอกจากนี้ อาจเกิดโรคต้อหินแทรกซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากการซักถามอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และตรวจพบว่าสายตามืดมัวรุนแรง (นับนิ้วได้ หรือเห็นแค่แสง)

แพทย์จะวินิจฉัยให้แน่ชัด ด้วยการใช้กล้องส่องตรวจในลูกตา (fundoscopy) และการใช้เครื่องมือพิเศษตรวจความผิดปกติของจอตาและหลอดเลือดจอตา เช่น fluorescein angiogram, optical coherent tomography (OCT), optical coherence tomography angiography (OCT-A) เป็นต้น

นอกจากนี้ จะทำการตรวจหาสาเหตุที่เกี่ยวข้อง เช่น ตรวจเลือด (ดูภาวะเม็ดเลือดแดงมาก ภาวะเลือดแข็งตัวเร็ว ระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด ภาวะการอักเสบในร่างกายจากโรคหลอดเลือดแดงขมับอักเสบ เป็นต้น) ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ อัลตราซาวนด์หลอดเลือดแดงใหญ่ที่คอ ถ่ายภาพสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เป็นต้น

การรักษาโดยแพทย์

ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาที่ได้ผล เนื่องจากโรคนี้มีโอกาสสูงที่จะเกิดอาการตามืดบอดอย่างถาวร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปล่อยให้มีอาการนานเกิน 4 ชั่วโมง

การรักษาจะได้ผลดีที่สุด คือ ต้องได้รับการรักษาจากจักษุแพทย์ภายใน 4 ชั่วโมงหลังมีอาการ

อย่างไรก็ตาม ในรายที่มาพบแพทย์ภายใน 24 ชั่วโมง แพทย์จะรับผู้ป่วยไว้ในโรงพยาบาล และอาจทดลองรักษาด้วยวิธีต่าง ๆ ดังนี้

    การนวดตา (ocular massage) เชื่อว่าจะทำให้มีการขยายตัวของหลอดเลือดแดงและเพิ่มเลือดไปเลี้ยงที่จอตา
    การเจาะระบายน้ำในช่องลูกตาหน้า (anterior chamber paracentesis)
    การให้ยาเพื่อลดความดันลูกตา เช่น การให้ยา acetazolamide หรือ mannitol ฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ หรือให้กินยา glyceral
    การอมยาใต้ลิ้นเพื่อขยายหลอดเลือด (sublingual isosorbide dinitrate)
    การบำบัดด้วยออกซิเจนความดันบรรยากาศสูง (hyperbaric oxygen therapy) โดยให้ผู้ป่วยหายใจด้วยออกซิเจนบริสุทธิ์ 100% ขณะอยู่ใน "ห้องปรับความดันบรรยากาศสูง (hyperbaric chamber)" ทำให้เกิดการขยายตัวของหลอดเลือด
    การยิงแสงเลเซอร์ ทำให้สิ่งหลุดอุดหลอดเลือด (embolus) แตกตัว หลุดออกมาอยู่ในน้ำวุ้นลูกตา
    การให้ยาละลายลิ่มเลือด (thrombolytic agent) ได้แก่ tissue plasminogen activator (tPA) ฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ โดยจะให้ภายใน 4 ชั่วโมงครึ่งหลังมีอาการ (สำหรับผู้ป่วยที่มาพบแพทย์ได้ทัน)
    การให้ยาสเตียรอยด์ในผู้ป่วยที่เป็นโรคหลอดเลือดแดงขมับอักเสบ

นอกจากนี้ หากตรวจพบโรคที่เป็นสาเหตุ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคหลอดเลือดหัวใจหรือสมอง ภาวะหัวใจห้องบนเต้นแผ่วระรัว ต้อหิน เป็นต้น แพทย์ก็จะให้ยารักษาโรคเหล่านี้ร่วมด้วย

ผลการรักษา ส่วนใหญ่ไม่ได้ผลเท่าที่ควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายที่มีการอุดตันของหลอดเลือดแดงหลักของจอตารุนแรงหรือมีการอุดตันอย่างสมบูรณ์ หรือมาพบแพทย์ช้า (ปล่อยให้มีอาการนานกว่า 4 ชั่วโมง) มักจะเกิดอาการตามืดบอดถาวร

สำหรับผู้ป่วยที่มีการอุดตันของหลอดเลือดแดงหลักของจอตาไม่รุนแรง หรือมีการอุดตันเพียงบางส่วน หรือมีหลอดเลือดแดงแขนง (cilioretinal artery) มาเลี้ยงจอตา อาจมีอาการทุเลาได้หลังมีอาการนาน 2 สัปดาห์ไปแล้ว

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการตามืดมัวเกิดขึ้นฉับพลันทันที โดยไม่มีอาการปวดตา ควรไปปรึกษาแพทย์ทันที

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคหลอดเลือดแดงหลักของจอตาอุดตัน ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    ดูแลรักษา ใช้ยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    ดูแลรักษาโรคที่เป็นปัจจัยของโรคนี้ (เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เป็นต้น) ให้ได้ผล
    เลิกบุหรี่ (ถ้าสูบบุหรี่)

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการเจ็บหน้าอก หรือแขนขาชาหรืออ่อนแรง
    มีอาการปวดศีรษะรุนแรง ปวดตารุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน ตาแดงหรือตามัวมากขึ้น
    มีสายตา (การมองเห็น) เลวลง หรือมีความวิตกกังวล
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน ใช้ยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง คันตา ตาบวม ตาแดง ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

อาจป้องกันด้วยการลดการเกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง (atherosclerosis) และควบคุมโรคหรือภาวะที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้  ดังนี้

1. บริโภคอาหารสุขภาพ โดยลดอาหารมัน หวาน เค็ม และบริโภคปลา ผัก ผลไม้ ธัญพืชให้มาก ๆ

2. ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

3. หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ

4. ไม่สูบบุหรี่

5. หมั่นตรวจสุขภาพเป็นระยะ หากพบว่าเป็นโรคที่เป็นปัจจัยของโรคนี้ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด ภาวะหัวใจห้องบนเต้นแผ่วระรัว หลอดเลือดแดงขมับอักเสบ ภาวะเม็ดเลือดแดงมาก ภาวะเลือดแข็งตัวเร็ว ต้อหิน เป็นต้น ควรรักษากับแพทย์อย่างจริงจัง

ข้อแนะนำ

1. โรคนี้แม้ว่าจะพบได้น้อย แต่มีความรุนแรงถึงทำให้ตาบอดถาวรได้ ซึ่งมักเกิดเพียงตาข้างเดียว ตาอีกข้างเป็นปกติ บางรายอาจเกิดทั้ง 2 ข้าง ทำให้มองไม่เห็น กระทบต่อคุณภาพชีวิตได้

ดังนั้น เมื่อสังเกตพบว่ามีอาการตามืดมัวเกิดขึ้นฉับพลันทันที ควรรีบไปพบแพทย์ทันที อย่าปล่อยให้มีอาการนานเกิน 4 ชั่วโมง หากมาพบแพทย์ช้าเกินไป การรักษาจะได้ผลน้อย

2. ภาวะหลอดเลือดจอตาอุดตัน (retinal vascular occlusion) อาจเกิดที่หลอดเลือดแดงหรือดำ ที่เป็นหลอดเลือดหลัก (central retinal artery/central retinal vein) หรือหลอดเลือดแขนงย่อย (branch retinal artery/branch retinal vein) ก็ได้ มักมีปัจจัยเสี่ยงและการป้องกันคล้ายกับโรคหลอดเลือดแดงหลักของจอตาอุดตัน และมีอาการคล้ายกัน คือ อาการตามืดมัวทันที โดยไม่มีอาการปวดตา (ถ้ามีอาการปวดตาร่วมด้วย มักเกิดจากสาเหตุร้ายแรงอื่น เช่น ต้อหินชนิดเฉียบพลัน)

ภาวะหลอดเลือดจอตาอุดตัน จะมีอาการรุนแรงมากน้อยขึ้นกับตำแหน่งและขนาดของการอุดตัน ถ้าเกิดการอุดตันของหลอดเลือดแดงหรือดำหลัก มักมีอาการมืดมัวทั้งตาอย่างรุนแรงและถาวร ถ้าเกิดที่หลอดเลือดแขนงย่อย มักมีอาการมืดมัวเพียงบางส่วน รุนแรงไม่มากและมักจะทุเลาได้เอง อย่างไรก็ตาม หากมีอาการตามืดมัวฉับพลันทันที ควรไปพบแพทย์ทันที เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมตามสาเหตุที่พบ

3. ผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดแดงหลักของจอตาอุดตัน มักพบว่ามีโรคอื่น ๆ และปัจจัยเสี่ยงต่อภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง (atherosclerosis) ร่วมด้วย และอาจทำให้เกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจตามมา จึงควรทำการรักษาโรคและควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่พบควบคู่กันไป เพื่อป้องกันไม่ให้โรคนี้กำเริบซ้ำ และป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

11
การขายอาหารตามสั่ง สร้างรายได้ โอกาสทางธุรกิจที่ทำกำไรให้ประสบความสำเร็จ

การขายอาหารตามสั่งเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย เนื่องจากตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการความหลากหลาย รวดเร็ว และราคาไม่แพง อย่างไรก็ตาม การที่จะประสบความสำเร็จในการขายอาหารตามสั่งนั้น จำเป็นต้องมีการวางแผนและเตรียมความพร้อมในหลายๆ ด้าน คุณสามารถสร้างธุรกิจที่เจริญรุ่งเรืองและดึงดูดฐานลูกค้าที่หลากหลาย

อุตสาหกรรมอาหารเป็นภาคส่วนที่เจริญรุ่งเรืองมาโดยตลอด แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การขายอาหารตามสั่งได้กลายเป็นรูปแบบธุรกิจที่ได้รับความนิยมและสร้างผลกำไรได้ดี ไม่ว่าคุณจะเป็นเชฟที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจหรือเป็นคนรักอาหารที่หลงใหลในการสร้างสรรค์อาหารจานอร่อย การเสนออาหารตามสั่งสามารถช่วยให้คุณโดดเด่นและสร้างฐานลูกค้าที่ภักดีได้


อาหารตามสั่งคืออะไร?

อาหารตามสั่งหมายถึงอาหารที่ปรุงตามคำสั่งซื้อเฉพาะของลูกค้า ซึ่งแตกต่างจากอาหารสำเร็จรูปหรืออาหารจานด่วน อาหารประเภทนี้จะปรุงสดตามคำขอ ทำให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะได้สัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารที่เป็นส่วนตัวและมีคุณภาพสูง ลูกค้ามักจะปรับแต่งอาหารตามรสนิยม ความชอบด้านอาหาร หรือข้อจำกัดของตนเอง ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยืดหยุ่นและน่าดึงดูด

เหตุใดจึงต้องขายอาหารตามสั่ง?

การปรับแต่งและความยืดหยุ่น
หนึ่งในแรงดึงดูดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการขายอาหารตามสั่งคือความสามารถในการนำเสนอประสบการณ์ส่วนบุคคล ลูกค้าชื่นชอบที่สามารถควบคุมส่วนผสมและวิธีการเตรียมอาหารได้ ซึ่งอาจนำไปสู่ความพึงพอใจที่สูงขึ้นและการซื้อซ้ำ การเสนอตัวเลือกต่างๆ เช่น อาหารปลอดกลูเตน มังสวิรัติ หรือคาร์โบไฮเดรตต่ำ สามารถดึงดูดลูกค้าได้หลากหลายมากขึ้น

คุณภาพและความสดใหม่ที่สูงขึ้น
เนื่องจากอาหารถูกจัดเตรียมตามความต้องการ คุณจึงสามารถรับประกันได้ว่าอาหารของคุณสดและมีคุณภาพสูง ซึ่งสามารถสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจของคุณจากธุรกิจอื่นๆ ที่ต้องพึ่งพาอาหารสำเร็จรูปที่ผลิตเป็นจำนวนมาก ส่วนผสมที่สดใหม่และการไม่มีสารกันบูดยังช่วยให้ได้อาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น ซึ่งดึงดูดลูกค้าที่ใส่ใจสุขภาพ

การลดขยะและประสิทธิภาพด้านต้นทุน
การขายอาหารตามสั่งหมายความว่าคุณจะปรุงอาหารเฉพาะสิ่งที่สั่งเท่านั้น ซึ่งช่วยลดขยะอาหารได้อย่างมาก วิธีนี้ช่วยลดต้นทุนสินค้าคงคลังและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ส่วนผสมของคุณ นอกจากนี้ ยังช่วยให้คุณปรับเปลี่ยนเมนูตามส่วนผสมตามฤดูกาลได้ ทำให้มั่นใจได้ถึงความหลากหลายและความสดใหม่

เพิ่มอัตรากำไร
ด้วยอาหารตามสั่ง คุณสามารถเสนออาหารระดับพรีเมียมหรืออาหารจานพิเศษซึ่งอาจทำให้ราคาสูงขึ้นได้ ซึ่งอาจนำไปสู่อัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากธุรกิจของคุณเน้นที่ส่วนผสมคุณภาพสูงและข้อเสนอสุดพิเศษ

วิธีเริ่มต้นขายอาหารตามสั่ง
ระบุกลุ่มเป้าหมายของคุณ
ขั้นตอนแรกในการเริ่มธุรกิจอาหารตามสั่งคือการระบุกลุ่มเป้าหมายของคุณ คุณมีความเชี่ยวชาญด้านอาหารจานด่วนแบบสบายๆ อาหารรสเลิศ หรืออาหารชาติพันธุ์หรือไม่ การมุ่งเน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายเฉพาะช่วยให้คุณสามารถกำหนดเป้าหมายความพยายามทางการตลาดและตอบสนองกลุ่มลูกค้าเฉพาะได้

สร้างเมนูที่ดึงดูดใจกลุ่มเป้าหมายของคุณ
เมนูของคุณควรมีความหลากหลายเพียงพอที่จะนำเสนอตัวเลือกสำหรับรสนิยมและความต้องการด้านอาหารที่แตกต่างกัน แต่ควรปรับให้เหมาะสมเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการเตรียมอาหาร พิจารณาเสนอการปรับแต่งสำหรับแต่ละจาน เช่น เลือกโปรตีน ซอส หรือเครื่องเคียง

ใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มออนไลน์
ด้วยการเติบโตของบริการจัดส่งอาหาร การขายอาหารตามสั่งทางออนไลน์จึงเข้าถึงได้ง่ายกว่าที่เคย ร่วมมือกับแพลตฟอร์มจัดส่งอาหารหรือสร้างเว็บไซต์ของคุณเองที่ลูกค้าสามารถสั่งซื้อได้อย่างง่ายดาย การให้บริการจัดส่งหรือซื้อกลับบ้านสามารถขยายการเข้าถึงและเพิ่มยอดขายได้

รับประกันความสม่ำเสมอและการควบคุมคุณภาพ
หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญสู่ความสำเร็จในธุรกิจอาหารตามสั่งคือความสม่ำเสมอ ฝึกอบรมพนักงานของคุณให้ปฏิบัติตามสูตรและเทคนิคการทำอาหารอย่างเคร่งครัดเพื่อให้แน่ใจว่าคำสั่งซื้อแต่ละรายการตรงตามมาตรฐานของคุณ การควบคุมคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างฐานลูกค้าที่ภักดีซึ่งจะกลับมาซื้อซ้ำอีก

ทำการตลาดธุรกิจของคุณ
ใช้โซเชียลมีเดีย โฆษณาในพื้นที่ และการบอกต่อแบบปากต่อปากเพื่อกระจายข่าวสารเกี่ยวกับบริการอาหารตามสั่งของคุณ เน้นย้ำถึงประโยชน์ของข้อเสนอของคุณ เช่น ส่วนผสมสดใหม่ ตัวเลือกการปรับแต่ง และทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ ความคิดเห็นและคำแนะนำของลูกค้ามีค่าอย่างยิ่งในธุรกิจอาหาร ดังนั้น ควรสนับสนุนให้ลูกค้าที่พึงพอใจแบ่งปันประสบการณ์ของตน

การขายอาหารตามสั่งเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับมื้ออาหารที่ปรับแต่งได้และสดใหม่ ด้วยการเน้นที่คุณภาพ การปรับแต่ง และความพึงพอใจของลูกค้า คุณสามารถสร้างธุรกิจที่เจริญรุ่งเรืองและดึงดูดฐานลูกค้าที่หลากหลาย ไม่ว่าคุณจะบริหารร้านอาหารขนาดเล็กหรือให้บริการจัดส่งอาหาร โมเดลอาหารตามสั่งสามารถทำให้คุณโดดเด่นในอุตสาหกรรมอาหารที่มีการแข่งขันสูง

12
ดูแลตนเองอย่างไร ให้ห่างไกลจากโรคมะเร็ง

โรคมะเร็ง เป็นโรคที่เกิดขึ้นจากการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติที่มีการแบ่งตัวอย่างควบคุมไม่ได้ ทำให้ก่อเป็นเนื้อร้ายแพร่ไปยังอวัยวะของร่างกายในส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแพร่กระจายทางน้ำเหลือง หรือการแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อที่อยู่ไกลออกไป ทำให้ผู้ป่วยโรคนี้เริ่มแสดงอาการ

ด้วยพฤติกรรมการดำรงชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพสังคมในปัจจุบัน ที่แข่งขันเร่งรีบและการรับประทานอาหารไม่ถูกหลัก พักผ่อนไม่เพียงพอ ย่อมต้องส่งผลต่อคุณภาพชีวิต และสุขภาพอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เป็นเหตุให้ประชากรทั่วโลกเจ็บป่วย ก่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง

โรคมะเร็ง เป็นโรคที่เกิดขึ้นจากการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติที่มีการแบ่งตัวอย่างควบคุมไม่ได้ ทำให้ก่อเป็นเนื้อร้ายแพร่ไปยังอวัยวะของร่างกายในส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแพร่กระจายทางน้ำเหลือง หรือการแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อที่อยู่ไกลออกไป ทำให้ผู้ป่วยโรคนี้เริ่มแสดงอาการ ตัวอย่างเช่น ผู้ที่มีอาการของมะเร็งปอด ผู้ป่วยอาจแสดงอาการไอหรือเริ่มมีอาการปอดอักเสบ, อาการของผู้ที่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่อาจมีการถ่ายอุจจาระที่ผิดปกติ หรือผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเต้านมจะคลำพบก้อนแข็ง ๆ บริเวณเต้านม เป็นต้น

ถึงแม้โรคมะเร็งจะเกิดจากหลายสาเหตุทั้งที่สามารถป้องกันได้และไม่สามารถป้องกันได้ แต่เมื่อคุณยังไม่เจอกับภาวะโรคร้ายนี้ ทางที่ดีก็ควรดำเนินชีวิตให้ห่างไกลจากความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดเนื้อร้าย และสิ่งสำคัญหากคุณสงสัยว่ามีอาการผิดปกติที่เข้าข่ายจะเป็นอาการของโรคมะเร็งควรรีบพบแพทย์เพื่อจะได้ทำการรักษาได้ตั้งแต่ระยะแรกรซึ่งยังมีโอกาสที่จะหายจากโรคร้ายนี้ได้

10 วิธีลดความเสี่ยงมะเร็ง

เลิกบุหรี่
ในแต่ละปี มะเร็งปอดคร่าชีวิตผู้คนไปมากที่สุดในบรรดามะเร็งชนิดต่าง ๆ ทั้งหมด ดังนั้นหากคุณติดบุหรี่ การเลิกสูบเสียแต่วันนี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมครั้งสำคัญ ที่สุดที่จะลดความเสี่ยงจากมะเร็งปอดและโรคอื่น ๆ ที่มีสาเหตุมาจากบุหรี่ เลิกบุหรี่อาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่คุณสามารถขอคำปรึกษาถึงวิธีการเลิก แบบต่างๆ จากแพทย์ได้ ทั้งการรักษาด้วยยาหรือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่งวิธีการเหล่านี้ จะช่วยทำให้คุณเลิกบุหรี่ได้อย่างถาวร

ทานอาหารที่มีประโยชน์
หลายคนคงยังจำได้ดีเวลา ถูกพ่อแม่บังคับให้กินผักและก็คง ไม่ได้คิดว่า พวกท่านจะทราบอะไรดี ๆ ที่พวกเราไม่รู้ แต่การถูกบังคับให้กินผักนี้ กลับเป็นประโยชน์ล้นเหลือ ต่อตัวเราเอง เพราะผักจำพวก บร็อคโคลี่  กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี และกะหล่ำดาวที่น้อยคนจะโปรดปรานนั้น กลับอุดม ไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นในการต่อสู้กับมะเร็ง รวมทั้งเป็นส่วน ประกอบสำคัญในตำรับอาหารต้านมะเร็ง นอกจากนี้ ผลเบอร์รี่ ถั่วแดง และชาเขียวก็ได้ชื่อว่าอุดมไปด้วยสาร ต้านอนุมูลอิสระ เช่นเดียวกับ ไวน์แดง ช็อกโกแลต และถั่วพีแกน ซึ่งสาร ต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ช่วย ร่างกายต่อต้านปฏิกิริยาเคมีที่ส่งผลร้ายต่อเซลล์ปกติ ซึ่งในท้ายที่สุดอาจ กลายเป็นเซลล์มะเร็ง อย่างไรก็ตาม ควรเลือกรับประทานแต่พอประมาณ

ออกกำลังกายให้มากขึ้น
การออกกำลังกายนานครั้งละ 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งหลายชนิด อาทิ มะเร็งปอด มะเร็ง เต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งลำไส้ การออกกำลังกาย ในที่นี้ไม่จำเป็น ต้องเป็นการออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงแบบนักกีฬาการเล่นโยคะ เดินหรือเต้นแอโรบิก ก็ถือเป็นการ ออกกำลังกายที่ช่วยต่อสู้กับ มะเร็งได้ดีที่สุดเช่นกัน นอกจากนี้การออกกำลังกายยังช่วยไม่ให้คุณเป็น โรคอ้วน ซึ่งมีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งหลายชนิด

ตรวจและหาให้เจอแต่เนิ่นๆ
มีหลักฐานยืนยันมากมายจนไม่อาจปฏิเสธว่า ยิ่งตรวจพบมะเร็งเร็วขึ้นเท่าไร โอกาสที่จะ รักษาจนหายก็มีมากขึ้นเท่านั้น และ การตรวจเจอแต่เนิ่นๆ ก็ยังช่วยให้ การรักษาฟื้นฟู ทำได้เร็วขึ้นโดย มีผลข้างเคียงน้อยลง ดังนั้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการเอาชนะมะเร็งควร ตรวจร่างกายอย่าง สม่ำเสมอและขอคำแนะนำ จากแพทย์เรื่องการตรวจ คัดกรองมะเร็ง ที่เหมาะกับวัยของคุณ (เช่น ผู้หญิงในวัย 40 ปีขึ้นไปควร ทำแมมโมแกรมเพื่อตรวจหามะเร็งเต้านม) แม้มะเร็งอาจไม่แสดงอาการใน ระยะเริ่มแรก แต่การตรวจคัดกรองที่ เหมาะสมช่วยให้สามารถพบมะเร็งได้เกือบทุกชนิด

ดื่มแต่พอดี
การดื่มแอลกอฮอล์ที่มากเกินไปเป็นผลร้ายต่อตับมากเป็นพิเศษ การดื่มแอลกอฮอล์ (โดย เฉพาะหากคู่มากับการสูบบุหรี่)เป็นสาเหตุ หลักในการเกิดมะเร็งช่องปากและลำคอ อีก ทั้งมีส่วนเกี่ยวพันกับมะเร็งชนิดอื่นๆ ด้วย แม้แพทย์จะแนะนำให้ผู้ที่เสี่ยงต่อการเป็นโรค หัวใจดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่พอเหมาะ แต่หากคุณสามารถจำกัดการดื่มลงให้เหลือ แค่ 2 แก้วต่อวันจะเป็นการดีที่สุด

มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย
เพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยไม่เพียงช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เท่านั้น แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญ ในการลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญในการเสียชีวิตของผู้หญิงไทยและผู้หญิงทั่วโลก เชื่อกันว่ ประมาณร้อยละ 70 ของมะเร็งปากมดลูกมีสาเหตุมาจาก Human Papillomavirus (HPV) ที่สำคัญ เชื้อ HPV นี้ยังเพิ่มความเสี่ยงในการเป็น มะเร็งที่ทวารหนักและอวัยวะเพศอีกด้วย แต่ปัจจุบันมีการพัฒนา วัคซีนชนิดใหม่ซึ่งมีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อ HPV และได้รับการ รับรองให้ใช้ได้

หลีกเลี่ยงแสงแดด
รังสีอัลตร้าไวโอเล็ต (ยูวี) ในแสงแดดเป็นสาเหตุหลักของ มะเร็งผิวหนัง ซึ่งส่วนมากแล้วสามารถป้องกันได้ง่ายๆ 2 วิธี คือ ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไปเมื่อต้องอยู่กลางแจ้งและพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญแสง แดดโดยตรงในช่วง เวลา 10.00 - 16.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่รังสียูวีมีความเข้ม สูงสุด

นอนหลับให้สนิท
ผลการศึกษาพบว่าสารเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมน ที่สมองผลิตใน ระหว่าง การนอนหลับมีคุณสมบัติในการต่อสู้กับมะเร็ง แต่เมลาโทนินจะช่วยป้องกัน มะเร็งได้ อย่างมีประสิทธิภาพ ก็ต่อเมื่อการนอนนั้นเป็นการนอนหลับอย่าง สนิทต่อเนื่องในห้องมืดเท่านั้น

สืบสาวเรื่องราวครอบครัว

มะเร็งหลายชนิดมักเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม หรือพูดง่ายๆ ก็คือ โรคมะเร็ง สามารถสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นได้ ดังนั้น การได้ทราบว่าคนในครอบครัวของคุณ มีประวัติเจ็บป่วยด้วยมะเร็ง ชนิดใดถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการป้องกันมะเร็ง โดยการพยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง และควรแจ้งประวัติการเจ็บป่วย ของคนในครอบครัวให้แพทย์ทราบ เพื่อ แพทย์จะสามารถให้คำแนะนำ และดูแลคุณได้อย่างเหมาะสม

หลีกเลี่ยงการเผชิญกับสารเคมีอันตราย

สารจำพวก ยาฆ่าแมลง น้ำยาทำความสะอาด น้ำมันเบนซินนั้นเต็มไปด้วย สารเคมีอันตรายที่เกี่ยวโยงกับการเกิดมะเร็ง แม้การควบคุมสิ่งแวดล้อม รอบตัวจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การจำกัดหรือหลีกเลี่ยงการใช้สาร เคมีเหล่านี้ ในบ้านหรือที่ทำงาน ย่อมเป็นการลดโอกาสในการ สัมผัสกับสารก่อมะเร็ง นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารกันไฟ หรือ PBDE ซึ่งมักจะใช้ กับผ้าเฟอร์นิเจอร์และสินค้า อิเล็กโทรนิกต่างๆ ด้วยเช่นกัน

มะเร็งเกิดขึ้นได้อย่างไร สาเหตุส่วนใหญ่มาจากไหน

    การถ่ายทอดทางพันธุกรรม แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีการถ่ายทอดเชื้อมะเร็งจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่งเสมอไป
    เกิดจากความผิดปกติของร่างกาย อย่างเช่น โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว, ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือภาวะทุพโภชนาการที่เกิดจากภาวะที่ร่างกายได้รับอาหารผิดสัดส่วนทั้งขาดและเกิน ส่งผลให้ร่างกายเกิดความไม่สมดุล
    สัมผัสหรือได้รับสารก่อมะเร็ง อย่างเช่น ผู้ที่สูบบุหรี่หรือดื่มสุราเป็นประจำ การได้รับเชื้อราที่มักจะปนเปื้อนมากับอาหารประเภทอัลฟาท็อกซิล การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง การรับประทานที่ใส่ดินประสิวเป็นประจำ ผู้ที่ชอบรับประทานอาหารรสเค็มจัดและอาหารส่วนที่ไหม้เกรียม ไปจนผู้ที่โดนแสงแดดจัดและได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตเป็นเวลานานและเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ก็ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งผิวหนังได้

พฤติกรรมที่ควรทำ และควรเลี่ยง เพื่อห่างไกลโรคมะเร็ง

    งดสูบบุหรี่และอยู่ใกล้ผู้ที่สูบบุหรี่ รวมถึงหลีกเลี่ยงการดื่มสุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
    รับประทานอาหารให้ถูกหลักโภชนาการและรับประทานอาหารอย่างสมดุล โดยรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลือกรับประทานผักผลไม้ที่หลากหลาย เน้นการรับประทานอาหารประเภทธัญพืชและอาหารที่มีเส้นใยมากขึ้น ลดการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง
    อย่ารับประทานอาหารที่หมดอายุหรือมีเชื้อรา
    ลด หรืองดเว้นการรับประทานอาหารจำพวกปิ้ง ย่าง และหมักดอง
    หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดหรืออยู่ในที่มีแสงแดดจัดเป็นเวลานาน ๆ หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องหาอุปกรณ์เพื่อช่วยป้องกันร่างกายหรือผิวหนังจากแสงแดด และควรทาครีมกันแดดทั้งผิวหน้าและผิวกาย
    ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ
    ดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่เพียงพอ
    หลีกเลี่ยงสิ่งต่างๆที่ทำให้เกิดความเครียด
    ตรวจร่างกายประจำปีเป็นประจำทุกปี
    หากสงสัยว่าตัวเองมีอาการปกติซึ่งเป็นอาการของโรคมะเร็งควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยทันที

13
ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ จากการไม่ดูแลความสะอาดในช่องปากระหว่างการจัดฟันเด็ก

 การดูแลความสะอาดของช่องปากและฟันของเด็ก ถือว่าเป็นเรื่องที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรดูแลเอาใจใส่ให้มากเป็นพิเศษ เพราะเรื่องของปัญหาฟันของเด็ก ถือว่าเป้นเรื่องใหญ่มาก เพราะถ้าเด็กมีฟันผุตั้งแต่ยังเป็นฟันน้ำนม อาจจะทำให้เด็กมีปัญหาสุขภาพฟันตามมาในอนาคต พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะแนะนำหรือสอนเด็กให้รู้จักการแปรงฟันที่ถูกต้อง หรือถ้าหากเด็กมีปัญหาเกี่ยวกับรูปร่างฟัน ควรพาเด็กมาเข้ามาพบทันตแพทย์เพื่อปรึกษาและเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อที่จะได้แก้ปัญหาเกี่ยวกับฟันตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะการเข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถแก้ไขปัญหาฟันได้ตั้งแต่เด็กยังมีฟันผสม แถมยังช่วยแก้ไขในเรื่องของกล้ามเนื้อบนใบหน้าได้อีกด้วย


แต่ในการเข้ารับการจัดฟัน เด็กจะต้องมีการทำความสะอาดช่องปากและฟันให้สะอาดมากเป็นพิเศษ คอต้องใส่ใจในเรื่องของการทำคววามสะอาดช่องปากและฟันมากกว่าคนทั่วไป เพราะเนื่องจากการจัดฟันในเด็กนั้น มีเครื่องมือการจัดฟันอยู่ภายในช่องปาก ซึ่งเป็นปัญหาของผู้เข้ารับการจัดฟันหลายคน ดังนั้น หากเราทำความสะอาดช่อปากและฟันไม่สะอาด อาจจะมีปัญหาตามมาภายหลังได้ สำหรับวันนี้คลินิกของเราจะมาพูดถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น จากการที่ไม่ดูแลความสะอาดช่องปากและฟันในระหว่างการเข้ารับการจัดฟัน ซึ่ง เป็นปัญหาที่หลายคนอาจจะมีความกังวลและพ่อแม่ผู้ปกครองอาจจะมีคำถาม ว่าถ้าหากเด็กแปรงฟันไม่สะอาด จะมีปัญหาใดตามมาและจะร้ายแรวกว่าผู้ที่ไม่เข้ารับการจัดฟันหรือไม่


หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า ถ้าหากเราทำความสะอาดช่องปากและฟันได้ไม่ดีเท่าที่ควรอาจจะเสี่ยงทำให้เกิดปัญหาฟันตามมาได้ เช่นเดียวกันกับผู้เข้ารับการจัดฟัน ไม่ว่าจะเป้ฯเด็กหรือผู้ใหญ่ หากไม่ทำความสะอาดช่องปากและฟันให้ดี ก็ทำให้เกิดปัญหาช่องปสกและฟันตามมาอย่างแน่นอน เนื่องจากเชื้อโรคที่หลงเหลืออยู่บนผิวฟัน ซึ่งที่เราเรียกว่าคราบจุลินทรีย์ที่เกิดจากการย่อยสลายอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล แล้วปล่อยกรดออกมากัดกร่อนฟันจนผุในที่สุด นอกจากนั้นแล้ว เชื้อโรคเหล่านี้ยังทำอันตรายต่อเหงือกและอวัยวะรอบ ๆ ฟัน จนเกิดเหงือกอักเสบ บวมเป็นหนอง ฟันโยก ฟันผุตามมาได้อีกด้วย


เพราะฉะนั้น ปัญหาที่เกิดจากการจัดฟัน อาจเกิดจากการไม่ดูแลความสะอาดในช่องปาก ไม่ดูแลเครื่องมือที่นำเข้าในช่องปาก ก็อาจจะทำให้เกิดกลิ่นปากอันไม่พึงประสงค์ได้ ทำให้เด็กเสียบุคลิกภาพ ทำให้โดนเพื่อล้อได้ ดังนั้น เด็กที่เข้ารับการจัดฟันใยนเด็กควรที่ทำความสะอาดช่องปากและฟันให้สะอาด เพราะยิ่งเราละเลย ปัญหาที่ตามมาอาจจะทำให้เกิดความรุนแรงได้ และปัญหาก็จะเกิดการร้ายแรงกว่าเด็กที่ไม่ได้รับการจัดฟัน พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะหมั่นสังเกตและคอยแนะนำวิธีการดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟันอย่างถูกวิธีให้กับบุตรหลานเพื่อที่เด็กจะได้ทำความสะอาดฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันการเกิดฟันผุ ลดโอกาสการเกิดคราบหินปูนด้วย เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาฟันในเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครองควรพาเด็กเข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปากและฟันเบื้องต้น เพื่อประเมินฟันก่อนเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพ่อห้เด้กได้มีสุขภพช่องปากและฟันที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย

หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดฟันในเด็กและมีประสบการณ์ด้านการทันตกรรมในเด็กมาอย่างยาวนาน เพื่อที่จะได้ให้คำปรึกษาได้อย่างตรงจุด หากเด็กมีปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน ทางเราสามารถตรวจและแก้ไขรักษาได้ก่อนเข้ารับการจัดฟันในเด็กเพื่อที่จะได้ลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการจัดฟัน เพราะเราอยากให้ทุกคนมีรอยยิ้มที่สดใสสวยงาม มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่ ช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็กได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้

14
จัดฟันบางนา: จัดฟันแบบใส เสี่ยงเกิดปัญหาฟันหรือไม่

หลายคนที่อยากจะเข้ารับการจัดฟัน คงเคยศึกษาข้อมูลในเรื่องของการจัดฟันมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการปฏิบัติตัวขณะเข้ารับการจัดฟัน หรือการทำความสะอาดช่องปากและฟันของผู้เข้ารับการจัดฟัน แน่นอนว่า ผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของทันตแพทย์ และอาจจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันด้วย นอกจากนี้ การเข้ารับการจัดฟันนั้น ก็มีความเสี่ยงของการเกิดปัญหาฟันอื่นๆได้ ถ้าหากเราดูแลรักษาความสะอาดไม่ดี ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุ เนื่องจากผู้ที่เข้ารับการจัดฟัน แน่นอนว่าจะมีเครื่องมือการจัดฟันอยู่ภายในช่องปากของเรา ทำให้เวลาที่เราแปรงฟันหรือทำความสะอาดช่องปากและฟัน อาจจะทำให้เราได้ทำความสะอาดช่องปากและฟันได้ไม่ทั่วถึง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เราเกิดปัญหาฟันผุได้


ซึ่งผู้เข้ารับการจัดฟันมักจะเจอปัญหานี้บ่อย แต่ในแง่ของการจัดฟันแบบใส หลายคนที่กำลังจะตัดสินใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส อาจจะมีความกังวลว่า การจัดฟันแบบใสนั้น มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาฟันได้หรือไม่ เพราะการเกิดปัญหาฟันผุ ส่วนใหญ่มักจะเกิดกับผู้เข้ารับการจัดฟัน ที่ดูแลช่องปากและฟันไม่ดี ซึ่งคนที่จะเข้ารับการจัดฟันแบบใส ก็มีความกังวลว่า หากเข้ารับการจัดฟันแบบใสจะมีความเสี่ยงของการเกิดปัญหาฟันได้หรือไม่ ซึ่งต้องบอกก่อนว่า การจัดฟันแบบใส เป็นรูปแบบการจัดฟันที่ไม่มีการติดเครื่องมือที่ผิวฟัน จะใช้อุปกรณ์ที่ทำจากอคลิริก มีลักษณะคล้ายกับรีเทนเนอร์แบบใส และมีลักษณะจำเพาะแต่ละบุคคล เพราะแพทย์จะทำการออกแบบเครื่องมือแบบเคสต่อเคสเลย เพื่อให้เครื่องมือการจัดฟันมีความพอดีกับช่องปากของผู้เข้ารับการจัดฟัน

สำหรับวันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงการจัดฟันแบบใส ว่ามีความเสี่ยงทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของปัญหาฟันหรือไม่ อย่างที่กล่าวไปตั้งแต่ต้นว่า การจัดฟันแบบใส เป็นการจัดฟันที่ไม่มีการติดเครื่องมือบนผิวฟัน และเป็นการจัดฟันที่ได้รับความนิยมมาก ในกลุ่มผู้ที่ต้องการความสวยงามในระหว่างการจัดฟัน เหมาะสำหรับผู้ที่ทำอาชีพที่ต้องใช้หน้าตาหรือการพูดคุยเจรจา ผู้ที่อยากให้มีสุขภาพฟันที่สะอาด ปราศจากหินปูนและฟันผุน้อยในระหว่างจัดฟัน เพราะการจัดฟันแบบใสลดโอกาสการเกิดหินปูนและฟันผุมากกว่าการจัดฟันแบบติดแน่น ซึ่งนอกจากนี้ การจัดฟันแบบใสยังช่วยในเรื่องของเสริมสร้างในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันด้วย

เพราะการที่เราทำความสะอาดฟัน ผู้เข้ารับการจัดฟัน สามารถถอดเครื่องมือจัดฟันออกได้ ทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟัน สามารถทำความสะอาดฟันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย ดังนั้น การจัดฟันแบบใส จึงไม่มีความเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพฟัน เพียงแต่ว่า ผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องมีระเบียบวินัยในการสวมใส่เครื่องมือ เพราะการจัดแบบใส ในเรื่องของระเบียบวินัย เป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุด เห็นมั้ยว่า การเข้ารับการจัดฟันแบบใส มีข้อดีและประสิทธิภาพในหลายๆด้าน ช่วยทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันที่ฟันที่สวยงามระหว่างการจัดฟัน มีสุขภาพช่องปากและฟันที่แข็งแรง สามารถรับประทานอาหารได้อย่างหลากหลาย โดยไม่ต้องกังวลในเรื่องของเครื่องมือการจัดฟันด้วย

หากใครสนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดฟันแบบใส และยังมีประสบการณ์ในวงการทันตกรรมมาอย่างยาวนาน จึงทำให้มั่นใจได้ว่า คุณจะกลับมามีสุขภาพฟันที่ดี มีฟันที่เรียงตัวสวยงาม มีความมั่นใจ เสริมสร้างในเรื่องของบุคลิกภาพของผู้เข้ารับการจัดฟันได้อย่างดี ทั้งนี้ ทางคลินิกของเรา ยังได้รับการรับรองสูงสุดจาก  Invisalign มึงมีความน่าเชื่อถือว่า ผู้เข้ารับการจัดฟันจะได้รับการบริการที่มีมาตรฐานมีความปลอดภัยในการรักษา และแน่นอนว่า เมื่อคุณได้รับการรักษาที่ดีมีมาตรฐานแล้ว ก็จะทำให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพ ทำให้คุณมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตามไปด้วย

15
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น

•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”

สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


หน้า: [1] 2 3 ... 61





















































อยากขายของดี
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
ขายสินค้าไม่สต๊อกสินค้า
เริ่มขายของออนไลน์
รับทำ seo ด่วน
smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
ไม่รู้จะขายอะไรดี

เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
โพสกระตุ้นยอดขาย
วิธีกระตุ้นยอดขาย เซลล์
วิธีแก้ปัญหายอดขายตก
เริ่มต้นขายของ
แหล่งรับของมาขายออนไลน์
ขายของออนไลน์อะไรดี
อยากขายของออนไลน์
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี

กลยุทธ์การหาลูกค้าใหม่
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
วิธีการหาลูกค้าของ sale
ทำ SEO ติด Google
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี
วิธีหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
การหาลูกค้าใหม่ รักษาลูกค้าเก่า
ช่องทางการเข้าถึงลูกค้า
เพิ่มฐานลูกค้าใหม่
รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด

โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
ทําไงให้ลูกค้าเข้าร้านเยอะ ๆ
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
เคล็ดลับขายของดี
ค้าขายไม่ดีทำอย่างไรดี
งานโพสโปรโมทงาน
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
หากลยุทธ์เพิ่มยอดขาย